บึงกาฬ-ผู้ว่าฯบึงกาฬนัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางแก้ปัญหาการจัดการท่องเที่ยวถ้ำนาคาบนภูลังกา ยันไม่มีนักท่องเที่ยวVIP ลัดคิวเข้าชมถ้ำพญานาคมีแต่กลุ่มทัศนศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ
เผยความฮอตฮิตของถ้ำนาคา ดึงนักท่องเที่ยวเข้าบึงกาฬแค่ 2 เดือนมากถึง 1.5 แสนคน เงินสะพัดทั้งจังหวัดราว
300 ล้านบาท
วันนี้ (8 ก.พ.) ณ สำนักงานอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ นายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้มาตรวจติดตามการดำเนินการแก้ปัญหาของอุทยานแห่งชาติภูลังกา กรณีนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปถ้ำนาคา ภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาไม่สามารถลงจากเขาได้ทันตามเวลาที่กำหนด โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหลายหน่วยงาน
ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายอำเภอบึงโขงหลง นายอำเภอบ้านแพง นายกเทศมนตรีตำบลบึงโขงหลง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บึงกาฬ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า หัวหน้ากลุ่มงานกฏหมาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง หัวหน้าฝ่ายจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ ผู้ใหญ่บ้านดงสว่าง ผู้ใหญ่บ้านบึงโขงหลง ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์หมากแข้ง ผู้ใหญ่บ้านนาอ่าง ผู้ใหญ่บ้านโนนชมภู กู้ภัยจิตอาสา ไกด์อาสา และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาทางออก วางแนวปฏิบัติ เพื่อลดความแออัด
นายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า จากกรณีที่สื่อหลายสำนักได้นำเสนอข่าวว่ามีการติดค้างของนักท่องเที่ยวบนถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์นั้น จริงแล้วภาพที่เห็นเป็นภาพของนักท่องเที่ยวเดินตามกัน และมีการกระจุกตัวมากจนเกินไป ทำให้เสียเวลาในการเดิน ช่วงนี้พระอาทิตย์ตกเร็วทำให้ท้องฟ้าค่ำมืดเร็ว เวลา 18.00 น. ที่บึงกาฬขณะนี้ฟ้าก็มืดแล้ว เหตุขัดข้องเกิดจากไกด์นำเที่ยวไม่ได้แนะนำนักท่องเที่ยวให้เผื่อเวลาลงและมีการคอยจนค่ำ ยืนยันไม่มีนักท่องเที่ยวติดค้าง
ล่าสุดวันนี้ได้มีการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อซักซ้อมผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เจ้าหน้าที่อุทยาน ไกด์นำเที่ยว และอาสาสมัครต่างๆ โดยกำชับให้จำกัดเวลาและจะต้องบริหารเวลาให้ดี เผื่อเวลาไม่ให้มืดค่ำที่จะต้องเดินทางลงมา
สำหรับกลุ่มที่ทำหนังสือเข้ามาท่องเที่ยวแบบ VIP นั้น ขอบอกว่ากลุ่มนั้นไม่ใช่ VIP ส่วนใหญ่จะเป็นการทัศนศึกษาของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ต่างๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะคิดรวมอยู่ในจำนวน 500 คนที่จำกัดไว้ หน่วยงานใดที่ยังต้องการศึกษาดูงาน ก็ยังคงสามารถทำหนังสือเข้ามาศึกษาดูงานได้ปกติ ซึ่งทางอุทยานจะจัดให้เข้าชมในวันที่มีคนจองผ่านระบบน้อย เพื่อให้ไม่ให้เกิดความแออัดและก่อให้เกิดปัญหาที่จะตามมา หากประชาชนนักท่องเที่ยวจะมาที่ถ้ำนาคา ต้องปฏิบัติตามระเบียบโดยต้องลงทะเบียนจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน และจำกัดจำนวนไม่เกิน 500 คนต่อวัน
ในส่วนบันไดแดง อนาคตอาจจะมีการสร้างทางขึ้นลงใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกจุดนั้น สำหรับจุดที่เป็นไฮไลต์ของถ้ำนาคา คือส่วนหัวในถ้ำนั้น จุดนี้จะมีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำว่าจุดนี้ควรจะอยู่กี่นาที โดยบริหารเวลาให้สอดคล้องกัน เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวใช้เวลานาน
“ส่วนข่าวว่ามีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ฯ นั้นขอเรียนว่าไม่ได้มีการย้ายเจ้าหน้าที่ เพียงแค่ปรับการทำงาน เพื่อให้สอดรับกับงานเท่านั้น โดยปรับเปลี่ยนคนที่เคยทำจุดนี้ไปทำงานจุดนั้น แต่เจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันทำงานที่อุทยานแค่คนละหน้าที่เท่านั้น” ผู้ว่าฯ บึงกาฬกล่าว และว่า
จากการที่มีคนเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬตอนนี้ คราวๆ เท่าที่ประเมินช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ 65 นี้ ประมาณ 2 เดือนมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่กว่า 1.5 แสนคน สร้างรายได้ให้จังหวัดกว่า 300,000,000 บาท ย้อนไปสมัยก่อนบึงกาฬยังไม่ดัง มีคนมาท่องเที่ยวเพียงปีละ 2 แสนคน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังประชุมเสร็จ คณะฯ ได้เดินทางลงไปตรวจพื้นที่พบว่า บรรยากาศการท่องเที่ยววันนี้เป็นไปปกติ เนื่องจากเป็นวันธรรมดา คนเดินทางมาราว 300-400 คน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการรสอบถามนักท่องเที่ยว ต่างก็บอกว่ามีความสะดวกสบาย อีกทั้งได้รับคำแนะนำว่านักท่องเที่ยวเมื่อขึ้นไปแล้วควรเผื่อเวลาขาลงไว้เพื่อไม่ให้ค่ำเกินไป