อุดรธานี - ไม่กลัวบาป! สาวแสบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่อนามัยในพื้นที่ หลอกฉกเงินในกุฏิพระ คนร้ายทำทีมาขอฉีดพ่นยา ก่อนฉกเงินหลวงพ่อที่เก็บไว้ในกุฏิหายไปกว่า 6,000 บาท
วันนี้ (6 ก.พ.) ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ มุงคุณ ร้อยเวร สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโกย มาขอฉีดพ่นยาที่กุฏิพระ ภายในวัดศรีสุขาภิกาล หรือวัดบ้านโกย ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อนแอบขโมยเอาเงินพระไปจำนวน 6,000 บาท จึงออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี
ที่เกิดเหตุมีพระสงฆ์และชาวบ้านจับกลุ่มพูดคุยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณหน้ากุฏิพระหลวงพ่อทอน อนุตโล พระลูกวัดบ้านโกย จากนั้นหลวงพ่อได้พาร้อยเวรตรวจสอบภายในกุฏิและชี้จุดที่คนร้ายขโมยเอาเงินที่เก็บไว้ไป พร้อมให้ข้อมูลปากคำเบื้องต้นแก่เจ้าหน้าที่
หลวงพ่อทอน อนุตโล อายุ 84 ปี เล่าว่าคนร้ายเป็นผู้หญิง ขี่จักรยานยนต์เข้ามาในวัด จอดรถไว้ห่างจากกุฏิไปพอสมควร คนร้ายพูดว่าได้รับคำสั่งจากอนามัยหนองนาคำให้มาพ่นยา หลวงพ่อถามกลับไปว่า ทำไมมาคนเดียว ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่ อสม.มาร่วมด้วย คนร้ายก็ตอบกลับมาว่าเป็นภารกิจเร่งด่วน ตนเชื่อใจจึงอนุญาตให้เข้ามา
คนร้ายไม่กล้าเข้ามาทางด้านหน้ากุฏิ ขอเดินอ้อมไปเข้าด้านหลังกุฏิ เมื่อเข้ามาคนร้ายได้บอกกับตนว่า ยาเมื่อพ่นฆ่าเชื้อแล้วจะไม่สามารถเข้าไปในกุฏิประมาณ 30 นาที ขอให้หลวงพ่อรอข้างนอก และบอกให้หลวงพ่อเขียนชื่อตัวเอง ที่อยู่ และวัดที่จำพรรษา จากนั้นคนร้ายก็เข้าไปพ่นยาใช้เวลาประมาณ 6-7 นาที
หลังจากนั้นออกมาบอกว่ายาหมด ขอกลับไปเอายาที่อนามัยแล้วจะกลับมาใหม่ เมื่อคนร้ายออกไปคิดว่าถูกหลอกแน่แล้ว จึงเรียกพระที่อยู่ใกล้กันมาช่วยตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเงินที่เก็บไว้หายไปราว 6,000 บาท โดยเงินส่วนนี้เป็นเงินที่ได้มาจากญาติโยมถวายจากสังฆทาน และงานส่วนต่างๆ และเตรียมไว้เป็นเงินรวมทำบุญผ้าป่าที่วัดนิโรธพิมพารามเร็วๆ นี้
ส่วนรูปพรรณคนร้ายเท่าที่จำได้ เป็นผู้หญิงผิวขาว ผมสั้น อายุประมาณ 30 ปี จำสีเสื้อไม่ได้ แต่สวมกางเกงยีนส์ ขับรถจักรยานยนต์สีแดง
ด้านนางสาวประภัทรสร มูลเสนา อายุ 40 ปี ลูกสาวของหลวงพ่อ เปิดเผยว่า บริเวณกุฏิหลวงพ่อ ตนได้ติดกล้องวงจรปิดไว้เพื่อสื่อสารกับหลวงพ่อ เนื่องจากหลวงพ่อใช้โทรศัพท์ไม่เป็น และเอาไว้สังเกตหลวงพ่อเนื่องจากหลวงพ่อมีอาการเจ็บป่วยเป็นกรดไหลย้อน ก่อนเกิดเหตุมีสัญญาณแจ้งเตือนจากกล้องเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือ คิดว่ากล้องจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของหลวงพ่อตามปกติ เพราะกล้องจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนทุกวัน
แต่พอมาเปิดดูก็เป็นจอดำ จากนั้นก็มีพระที่วัดโทร.หาบอกว่ามีคนมาขโมยเงินหลวงพ่อ อยากฝากถึงคนที่มาขโมยว่า หากอยากได้ให้มาขอ ไม่ใช่มาลักขโมยแบบนี้ ตอนนี้ไม่ได้อยากได้เงินคืน แต่อยากให้คนร้ายมีสามัญสำนึก คิดว่าคนร้ายน่าจะอยู่ละแวกใกล้ๆ เพราะสุนัขของหลวงพ่อที่เลี้ยงไว้ไม่เห่า