xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มไทรโยคขับกระบะล่าสัตว์ป่าโดนรวบกลางดึก จ่อคุกหัวโต ปรับกว่า 1 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - หนุ่มไทรโยคขับกระบะล่าสัตว์ป่าโดนรวบกลางดึก จ่อคุกหัวโต ปรับกว่า 1 ล้านบาท ด้าน ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เผย เตือนแล้วเตือนอีกแต่ก็เกิดขึ้นซ้ำๆ ยันของกลางแค่ไก่ป่าก็จริง แต่โทษหนักเท่าคดีล่าเสือโคร่ง

วันนี้ (5 ก.พ.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า นายไชยวุฒิ อารีย์ชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทยไยค ได้รายงานว่ามีสายข่าวแจ้งว่า จะมีนายพรานป่าเข้ามาล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค และในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำละว้า-ถ้ำดาวดึงส์ หลังจากได้รับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ออกติดตามเพื่อจับกุม

จนกระทั่งไปถึงบริเวณป่าบ้านปากลำบ้องตี้ หมู่ 5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค พบรถยนต์ กระบะยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 8793 กาญจนบุรี จอดอยู่บนถนนลูกรัง เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในรถพบซากไก่ป่า จำนวน 2 ซาก อาวุธปืนยาวเดี่ยวลูกกรด ขนาด .22 ติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 26 นัด ปลอกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 ปลอก หลอดเป่าไก่ จำนวน 1 หลอด ไฟฉายคาดหัว จำนวน 4 อัน มีดพก จำนวน 1 เล่ม กระเป๋าเป้สะพายหลัง จำนวน 1 ใบ และทราบชื่อผู้ต้องหาภายหลังคือ นายวรวุฒิ ชมเอ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 5 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

สำหรับจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำละว้า-ถ้ำดาวดึงส์ ที่พิกัด UTM_WGS1984 ZONE 47P 0487786 E 1587915 N ที่ไม่ใช่อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติไทรโยค แต่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีได้ เนื่องจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้มีคำสั่งที่ 016/2565 ลงวันที่ 19 ม.ค.2565 ให้เพิ่มอำนาจให้ทุกอุทยานแห่งชาติสามารถจับกุมได้ในทุกพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม ปจว.ข้อ 2 คดีอาญาที่ 125/65 ยึดทรัพย์ ที่ 31/65 ลงวันที่ 5 ก.พ.65

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า "ตนได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบมาอย่างต่อเนื่อง ว่า หากใครถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในคดีล่าสัตว์จะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับ พ.ศ.2562 ที่มีโทษรุนแรงมาก แต่ยังเกิดขึ้นซ้ำอีก และถึงแม้สัตว์ป่าคุ้มครองที่ยึดได้ ทุกคนอาจจะมองว่าเป็นแค่ไก่ป่าเท่านั้น แต่ทุกชีวิตของสัตว์ป่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ในระบบธรรมชาติต่างเกื้อกูลกัน และโทษของการล่าไก่ป่า สัตว์ป่าคุ้มครองไม่แตกต่างกับการล่าเสือโคร่ง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเช่นเดียวกัน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้จะต้องมีโทษหนักเท่ากัน ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี ปรับตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท" นายนิพนธ์ กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น