อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่ศุลกากรและปศุสัตว์ประจำด่านตรวจพรมแดนช่องเม็กตรวจเข้มรถขนส่งสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เบื้องต้นไม่พบการลักลอบนำเนื้อสัตว์ต้องห้ามเข้ามา คาดเนื้อหมูชำแหละที่เน่าและนำไปทิ้งริมถนนเมื่อวานเป็นเนื้อหมูในประเทศที่เก็บรักษาไม่ดีทำให้เน่าเสีย
จากกรณีที่มีชาวบ้านพบเนื้อหมูชำแหละหนักกว่า 300 กิโลกรัม ที่เน่าเสียใส่ถุงดำมาทิ้งริมถนนเลียบแม่น้ำมูลในอำเภอวารินชำราบ ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว คาดอาจเป็นเนื้อหมูที่แก๊งกักตุนเนื้อหมูขนหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่จากห้องเย็น และเกิดเน่าเสีย จึงนำมาทิ้งไว้
ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสินค้าพรมแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี นำสุนัขดมกลิ่น และเพิ่มความเข้มงวดตรวจค้นรถขนส่งสินค้าที่นำเข้ามาจาก สปป.ลาว ปรากฏว่าสินค้าที่นำเข้าผ่านชายแดนด้านนี้ยังเป็นสินค้าด้านการเกษตรจำพวกพืชผัก และมันสำปะหลัง ไม่พบมีลักลอบนำเนื้อสัตว์ที่เป็นสินค้าต้องห้ามผ่านแดนปะปนเข้ามากับสินค้าในกลุ่มการเกษตรแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้าที่ด่านชายแดนช่องเม็กระบุว่า ด่านชายแดนแห่งนี้มีการนำเข้าสินค้าจากประเทศลาวในกลุ่มสินค้าด้านการเกษตรเป็นหลัก สำหรับสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ไม่มี รวมทั้งการจะนำเนื้อหมู หรือเนื้อสัตว์ประเภทอื่นก็เป็นเรื่องยาก
เนื่องจากทางประเทศลาวมีห้องเย็นเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็กเพียงแห่งเดียว ที่เหลือจะเป็นตู้แช่แข็งแบบใช้ตามร้านค้าทั่วไปเท่านั้น
ดังนั้นการจะลักลอบนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งเหมือนชายแดนด้านอื่นคงไม่คุ้มกับการลงทุน และเชื่อว่าเนื้อหมูชำแหละที่เน่าเสียถูกนำไปทิ้งริมถนน น่าจะเป็นเนื้อหมูในประเทศที่เก็บไว้จนเน่าเสีย ไม่ใช่เนื้อหมูมาจากประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน