เจ้าหน้าที่ทองผาภูมิ-เขาแหลม ตำรวจลงตรวจที่เกิดเหตุเสือทำร้ายชาวบ้าน เตรียมผลักดันเข้าป่าลึก

กาญจนบุรี - เจ้าหน้าที่ทองผาภูมิ-เขาแหลม ตำรวจลงตรวจที่เกิดเหตุเสือโคร่งตะปบหนุ่มกะเหรี่ยงบ้านปิล๊อกคี่สาหัส พบหลักฐานเพียบ เตรียมผลักดันเข้าป่าลึก

จากกรณีนายหวาน ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 4 บ้านปิล๊อกคี่ ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ถูกเสือโคร่งตะปบได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เหตุเกิดวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (29 ม.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ติดตามในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้บาดเจ็บ และให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัย พร้อมกับผลักดันเสือโคร่งดังกล่าวเข้าไปในป่าลึกให้เร็วที่สุด

วันนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ประกอบด้วย นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ร.ต.อ.สองนคร เครือแสง ร้อยเวรเจ้าของคดี พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ น.ส.กนกวรรณ ตรุยานนท์ สัตวแพทย์ สบอ.3 (บ้านโป่ง) ได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ติดกับป่ารอยต่อเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจวัตถุพยาน ดังนี้ ประกอบด้วย รองเท้าหุ้มส้นเปื้อนเลือด 1 คู่ ซองใส่มีดพก (ไม่พบมีด) 1 ซอง คราบเลือดหยดบนใบไม้และพื้นดินเป็นทางยาว ระยะทางประมาณ 100 เมตร

ร่องรอยพื้นที่ลักษณะมีการต่อสู้ นอกจากนี้ ยังพบซากควาย อายุประมาณ 2-3 ปี จำนวน 2 ซาก สภาพถูกเสือโคร่งถูกกัดกินมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 วัน อีกทั้งยังตรวจพบมูลเสือใกล้เคียงซากควายอีกด้วย พนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก ได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป

นายนิพนธ์ กล่าวว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการหาแนวทางผลักดันเสือโคร่งให้กลับเข้าสู่ผืนป่าลึกให้ได้โดยเร็วที่สุด