ตาก - จนท.ไล่จับกันจนป่าเทือกเขาถนนธงชัยแทบแตก หลายคนกลิ้งตกดอยเจ็บซ้ำ..ขบวนการค้าแรงงานขนต่างด้าวบึ่งหนีด่านฯ ก่อนปล่อยบนไหล่เขาหลายสิบคนรอจังหวะขนต่อ สะพัดมีพักรอฝั่งเมียนมาหาทางข้ามน้ำเมยเข้ากรุงอีกนับหมื่นๆ คน
นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอวังเจ้า ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผ่านเส้นทางบ้านผาผึ้ง หมู่ที่ 6 ต.เชียงทอง-บ้านท่าทองแดง หมู่ 7 ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก จึงได้มอบหมายให้นายสมบูรณ์ พรหมดำ ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลัง อส.วังเจ้า ร่วมกับ ร.ต.พัฒนา ช่างล้อ หัวหน้าชุดปฏิบัติการลาดตระเวนระยะไกล ที่ 2 หมวดลาดตระเวน กองกำลังนเรศวร, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเจ้า พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า และ กอ.รมน.ตาก ตรวจสอบ
โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัด และออกลาดตระเวนตามเส้นทางดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณ 02.30 น. 26 ม.ค. 65 พบรถกระบะต้องสงสัย 2 คันคลุมผ้าท้ายกระบะ เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถ แต่คนขับทั้ง 2 คันกลับไม่ยอมหยุดรถ อาศัยความมืดและความชำนาญทางขับวนกลับหลบหนีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปทางบ้านผาผึ้ง
เจ้าหน้าที่ไล่ตามไม่ทันเพราะสภาพเส้นทางเป็นป่าเขาสูงชันอันตราย จึงตั้งจุดตรวจจุดสกัด และออกลาดตระเวน จนกระทั่งเย็นวันที่ 26 ม.ค. 65 ชุดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนบนเทือกเขาถนนธงชัยมาถึงดอยชมพู่ ระหว่างบ้านผาผึ้ง-บ้านวังน้ำเย็น ได้ตรวจพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมากถูกนำมาพักไว้บริเวณไหล่เขาเพื่อรอรถมารับเข้าพื้นที่ชั้นใน
เมื่อทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหนีเข้าป่าไผ่กระจัดกระจายไปทั่วผืนป่า บางคนล้มกลิ้งตกเขาได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามลำตัว เจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม สามารถจับกุมมาได้จำนวน 37 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 23 คน ตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารหลักฐานใดมาแสดง จึงร่วมกันจับกุมตัว ก่อนใช้รถยนต์กระบะอำเภอวังเจ้า 2 คันขึ้นไปลำเลียงลงมา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังเจ้า พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามกลุ่มแรงงานทั้งหมดยังไม่ได้รับประทานข้าวก่อนถูกจับกุม โดยลักลอบเข้ามาในไทยได้ 10 วัน ต้องอดอาหารมาหลายวัยแล้ว นายอำเภอวังเจ้าจึงได้สั่งข้าวกล่องมาให้ผู้ต้องหาได้รับประทานเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นตามหลักสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ ฝ่ายข่าวชายแดนรายงานว่า ยังมีแรงงานประเทศเพื่อนบ้านพักรออยู่ฝั่งประเทศเมียนมาจำนวนนับหมื่นคน ที่จ่อทะลักข้ามแม่น้ำเมยเพื่อจะเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งแต่ละคนต้องจ่ายค่านายหน้านำพาเฉลี่ยราว 20,000-25,000 บาท แม้เจ้าหน้าที่ไทยจะเข้มงวดและจับกุมได้ทุกวัน แต่ก็มีบางส่วนที่เล็ดลอดเข้าไปยังเมืองชั้นในได้
