ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกท่องเที่ยวเสม็ด เชื่อรัฐกำจัดคราบน้ำมันในทะเลได้ตามแจ้งหลังเคยมีบทเรียนมาแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน แต่แอบหวั่นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการโปรยสารเคมีลงทะเล วอนหากสุดท้ายมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงต้องรีบแจ้งผู้ประกอบการวางเพื่อแผนรับมือทัน
จากเหตุการณ์น้ำมันดิบ จำนวน 200,000 ลิตรรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลบริเวณท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ซึ่งท่อดังกล่าวเป็นของบริษัท สตาร์รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.10 น.วันนี้ (26 ม.ค.) จนส่งให้ชาวบ้านในพื้นที่และผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.ระยอง พากันวิตกกังวลว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยน้ำมันรั่วเมื่อปี 2556 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยเฉพาะเกาะเสม็ด ที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้น
ล่าสุด นางสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า หน่วยงานภาครัฐจะสามารถควบคุมและกำจัดคราบน้ำมันได้หมดตามที่มีการชี้แจงต่อสื่อมวลชนเนื่องจากเคยมีบทเรียนมาแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน เช่นเดียวกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ได้เรียนรู้ว่าจะต้องดำเนินการเช่นไรหากเกิดสถานการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก
โดยเชื่อว่าหากสุดท้ายรัฐไม่สามารถควบคุมคราบน้ำมันให้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัดได้ ผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด จะต้องอยู่ให้ได้เช่นกัน
“อย่างไรก็ดี หากสุดท้ายสถานการณ์เปลี่ยนแปลง หรือควบคุมน้ำมันรั่วไม่ได้ขอให้ภาครัฐแจ้งข้อเท็จจริงต่อผู้ประกอบการและขออย่าปกปิดข้อมูล เพื่อที่ผู้ประกอบการจะได้เตรียมตัวและแจ้งนักท่องเที่ยวให้ปรับแผนได้ทัน”
นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ยังเผยอีกว่า อีกสิ่งสำคัญที่สร้างความกังวลใจให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ขณะนี้คือ เรื่องความปลอดภัยจากสารเคมีที่ฉีดลงไปในทะเลเพื่อให้ทำปฏิกิริยากับคราบน้ำมันที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ทะเล
ทั้งนี้ สิ่งนี้หน่วยงานภาครัฐจะต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ใช้ในการกำจัดคราบน้ำมันจะไม่มีผลกระทบต่อทั้งสัตว์น้ำ คน หรือไม่สร้างมลพิษอื่นๆ ให้พื้นที่
