เพชรบูรณ์ - หนุ่มหล่มเก่า คนร้ายพกปืนบุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างบิ๊กซีหล่มสัก นำของกลางสร้อยทองพร้อมปืนมอบตัวแล้ว อ้างไร้ทางออกหลังติดหนี้เงินกู้รายวันต้องหาเงินจ่ายวันละเป็นหมื่น ก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
วันนี้ (25 ม.ค. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยพ่อกับแม่ผู้ต้องหา เดินทางไปรับตัว นายแมน นายนพรุจ สุขเสถียร อายุ 40 ปี ที่ก่อเหตุพกปืนบุกชิงทองรูปพรรณ 23 เส้น มูลค่าครึ่งล้าน จากร้านห้องเยาวราชสินทวี สาขาห้างบิ๊กซี หล่มสัก และยิงปืนขึ้นฟ้าก่อนหลบหนีไปเมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังมีการติดต่อขอมอบตัวผ่านทางนายมนัญชัย ตริสุข อายุ 49 ปี กำนัน ต.นาเกาะ อ.หล่มเก่า ที่โคกหนองนาโมเดล พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำทั้ง 23 เส้น และปืนสั้นไทยประดิษฐ์ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก
นายมนัญชัย ตริสุข 49 ปี กำนัน ต.นาเกาะ อ.หล่มเก่า เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากตำรวจว่า นายแมนคือผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทอง ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะนายแมนเป็นคนขยันทำมาหากินดูแลครอบครัว เดิมทีเป็นคนอำเภอหล่มสักได้มาแต่งงานกับลูกบ้านมา 16 ปีแล้ว มีลูกยังเล็ก 2 คน ประกอบอาชีพทำมะขามแช่อิ่มขาย มีฐานะยากจน ขายที่ดินใช้หนี้จนหมดแล้ว เนื่องจากมีหนี้สินจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลังรับแจ้งได้ตามไปบ้านของผู้ต้องหา เจอแต่ภรรยา ซึ่งก็ตกใจไม่ทราบว่าสามีไปก่อเหตุชิงทอง จึงให้ภรรยาโทร.พูดคุยเกลี้ยกล่อมสามีให้ยอมมอบตัว ทางผู้ต้องหาเองก็แจ้งความประสงค์ว่าต้องการจะมอบตัวอยู่แล้ว จึงนัดหมายที่โคกหนองนาโมเดล
เมื่อกำนันไปถึง พบว่าผู้ต้องหาอยู่คนเดียว จึงถามถึงสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ นายแมนตอบว่า..เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากติดหนี้เงินกู้รายวันเป็นจำนวนมาก ต้องจ่ายวันละเป็น 10,000 บาท ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ จึงก่อเหตุดังกล่าว และมอบของกลางทั้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และทองคำใส่ถุง ก่อนประสาน พ.ต.อ.สุรวิช ชัยสิทธิ์ ผกก.สภ.หล่มสัก นำกำลังไปรับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายแมน หรือ นายนพรุจ สุขเสถียร อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวบ้าน ต.นาเกาะ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า ก่อนลงมือก่อเหตุคิดอยู่ประมาณ 2 วัน โดยเฉพาะช่วงก่อเหตุได้ไปสูบบุหรี่อยู่ลานจอดรถหน้าห้างบิ๊กซีประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบลงมือใช้อาวุธปืนบุกลงมือชิงทอง โดยไม่ได้เจตนาจะเอาชีวิตใครหรือทำร้ายใคร และรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เพราะไม่มีเงินไปใช้หนี้เงินกู้รายวัน
ขณะที่ นายสมชาย สุขเสถียร อายุ 59 ปี พ่อผู้ต้องหา บอกว่า ไม่รู้เรื่องของลูกชายมาก่อนเลย ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะเป็นลูกชายด้วยซ้ำ เพราะเขาเป็นคนดีรักพ่อแม่ รักครอบครัว ขยันทำงาน นิสัยเรียบร้อย ไม่เกเร หลังแต่งงานมีครอบครัวไปนานแล้วก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน และไม่ค่อยรู้เรื่องราวของลูกชายเท่าไหร่นัก รู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้านภรรยาผู้ต้องหา (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) เล่าทั้งน้ำตา บอกว่า สามีเป็นคนดี แต่ครอบครัวของเราประสบปัญหาด้านการเงิน มีหนี้สินจำนวนมาก แต่ไม่อยากเปิดเผยยอดหนี้ที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งเขาก็ไม่เคยพูดให้ฟังว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ รู้สึกตกใจที่เห็นตำรวจมาตามตัวถึงบ้าน และแจ้งว่าสามีคือผู้ต้องสงสัยก่อเหตุปล้นร้านทอง
“ทุกอย่างเหมือนฝัน ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง เขารักลูกและขยันทำมาหากิน หลังทราบข่าวจึงโทรศัพท์ไปหาสามีพูดคุยกัน ซึ่งสามีเองก็ได้แจ้งว่าอยากมอบตัวเหมือนกันและรู้สึกสำนึกผิด จึงได้คุยกันว่าจะมอบตัวต่อกำนัน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือในหมู่บ้านจึงได้ประสานกำนันให้มารับตัว”