xs
xsm
sm
md
lg

ปะทุอีก! ศึกชิงอำนาจคุมวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ชาวบ้านศิษย์อดีตเจ้าอาวาสฮือปิดประตู-ขวางทางเข้าซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิจิตร - จ่อขออำนาจศาลจัดการจันทร์นี้..หลังปัญหาชิงอำนาจวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลานปะทุซ้ำต่อเนื่อง ล่าสุดกลุ่มชาวบ้านศิษย์อดีตเจ้าอาวาสชุมนุมปิดประตู-ขวางทางเข้าออกวัดนานกว่า 10 วันอีกรอบ


ปัญหาวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 5 ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่หมักหมมมาตั้งแต่ปี 2557 กระทั่งมหาเถรสมาคมได้มีคำสั่งปลด พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และได้แต่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากรให้มาดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดฯ พร้อมกับมีการตั้งกรรมการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินทั้งเงินบริจาค-วัตถุมงคลต่างๆ

แต่กลับไม่ยอมส่งมอบทรัพย์สินและส่งมอบอำนาจหน้าที่ให้แก่รักษาการเจ้าอาวาส จนเกิดการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล ทั้งศาลจังหวัด ศาลปกครอง ศาลฎีกา รวมหลายสิบคดี นอกจากนี้ยังมีบุคคลบางคนปลุกระดมจัดหามวลชนมาต่อต้าน

27 ก.ย. 61 ฝ่ายกฎหมายและตัวแทนของรักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญารามได้นำคำสั่งศาลจังหวัดพิจิตรเข้าติดตามตรวจสอบทรัพย์สินและให้ส่งมอบบัญชีเงินฝาก เงินสด วัตถุมงคล เงินจากพันธบัตรรัฐบาลและอื่นๆ ซึ่งก็ปรากฏว่าได้รวบรวมเงินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานที่อยู่ในบัญชีธนาคารต่างๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 61.8 ล้านบาทเศษ

จากนั้นก็มีการสืบค้นและรวบรวมเงินของหลวงพ่อเงินที่กระจัดกระจายให้มาอยู่ในบัญชีที่สามารถตรวจสอบได้ต่อเนื่อง จนรวบรวมเป็นเงินสดไว้ได้แล้วประมาณ 100 ล้านบาทเศษ

ล่าสุดตั้งแต่ 12 ม.ค.65 เป็นต้นมา กลุ่มลูกศิษย์และผู้สนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานจำนวนประมาณ 60-80 คน ยังได้รวมตัวกันตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่ขวางทางเข้าออก และคล้องกุญแจ-ปิดประตูวัด 6 จุด ไม่ยอมให้รักษาการเจ้าอาวาส กรรมการวัด ไวยาวัจกร คนงาน เข้าปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะมาทำบุญนมัสการกราบไหว้หลวงพ่อเงินวัดบางคลานก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

นอกจากนี้ยังมีข่าวแพร่กระจายทำให้พุทธศาสนิกชน-นักท่องเที่ยวนอกพื้นที่ หวาดกลัวไม่กล้าเดินทางไปท่องเที่ยวจึงไม่มีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวเหมือนดั่งเคย ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนารวมถึงมาตรการของฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจว่าหย่อนยานปล่อยให้เหตุการณ์ยืดเยื้อบานปลายมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยไร้มาตการแก้ไขได้อย่างไร


พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน กล่าวว่า จากกรณีที่มีชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มของลูกศิษย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งมาก่อความวุ่นวาย โดยการนำกุญแจมาปิดประตูวัดทั้ง 6 ประตู ตั้งเต็นท์ ขวางประตู-เข้าออกวัด ที่สะพานด้านเหนือ เพื่อไม่ให้คนเข้า-ออก ประกอบกับตนเองซึ่งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสก็ยังไม่สามารถไปบริหารจัดการในวัดบางคลานได้ รวมถึงกรรมการวัด ประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยในขณะนี้ได้มอบอำนาจให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวแล้ว

โดยไวยาวัจกรและเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน-แม่ค้าที่ขายของอยู่ในวัด-คนงานได้รวมตัวกันประมาณ 20 คน ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โพทะเล และร้องเรียนต่อนายกเทศมนตรีตำบลบางคลาน เมื่อวันที่ 13 และ 15 ม.ค. 65 ว่า กล่าวหากลุ่มที่ชุมนุมปิดทางเข้าออกวัด ขัดขวางไม่ให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในวัด ทั้งยังกระทบชาวบ้านหลายสิบครัวเรือนที่ต้องใช้เส้นทางผ่านประตูวัดในการเข้า-ออกหมู่บ้านด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและฝ่ายผู้ปกครองส่วนท้องถิ่นก็ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ต่อผู้ชุมนุมและปล่อยให้มีการชุมนุมยืดเยื้อสร้างความเดือดร้อนให้วัดและให้นักท่องเที่ยวต่อเนื่องกว่า 10 วันดังกล่าว


ด้าน พ.ต.อ.วัชรเกียรติ ศิริวิมลฤทธิ์ ผกก.สภ.โพทะเล ได้เดินทางไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ยุติการชุมนุมและขอให้ย้ายสถานที่ชุมนุม เนื่องจากผิด พ.ร.บ.การชุมนุม รวมถึงช่วงนี้ยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งก็มีข้อห้ามการชุมนุมด้วยเช่นกัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำเป็นหนังสือแจ้งผู้ชุมนุมให้ทราบมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่แกนนำผู้ชุมนุมได้ทำหนังสืออุทธรณ์ ซึ่ง สภ.โพทะเล และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ชุมนุมโดยการกีดขวางทางเข้า-ออก ของวัดจึงขอให้สลายการชุมนุมหรือย้ายการชุมนุมไปยังจุดอื่น หากฝ่าฝืนก็จะบังคับใช้กฎหมาย โดยมีรายงานว่าจะมีการขออำนาจศาลเข้าดำเนินการต่อผู้ชุมนุมในวันจันทร์ที่ 24 ม.ค. 65 นี้

ขณะที่นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอโพทะเล และ ผกก.สภ.โพทะเล ยึดข้อกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะหากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง-ฝ่ายตำรวจ-ฝ่ายผู้บริหารท้องถิ่น ละเว้นหรือไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตนก็จะเป็นฝ่ายถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือ ม.157 ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น