ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชื่นชม! ลุงถีบสามล้อตลาดวัดกลาง จ.ชลบุรี วัย 81 ปี เก็บสร้อยคอทองคำหนัก 6 บาท พร้อมจี้ทองคำรูปปี่เซี๊ยะส่งคืนเจ้าของ บอกแม้จะจนก็ไม่เคยคิดอยากได้ของเขา ยันปั้นสามล้อถีบ-เก็บขวดขายก็อยู่รอดได้
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Nat Haji ได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือผู้ที่เดินทางเข้ามาจับจ่ายสินค้าภายในตลาดวัดกลาง อ.เมืองชลบุรี ระบุข้อความ “แม่ทำสร้อยคอและปี่เซี๊ยะเส้นในรูปหายค่ะ น้ำหนักเกือบ 6 บาท หากผู้ใดเก็บได้ขอคืนทีนะคะ คุณแม่ร้องไห้หนักมาก หวังว่าจะเจอขอให้เจอคนดีเก็บได้” พร้อมภาพผู้หญิงสูงอายุสวมสร้อยคอทองคำ
จากนั้นไม่นานได้โพสต์ข้อความ “ได้ทองคืนแล้วค่ะ คุณลุงขี่สามล้อตรงตลาดผ้าวัดกลางเป็นคนเจอตรงห้องน้ำวัดค่ะ ขอบคุณจริงๆดีใจได้เจอคนดีๆ ขอบคุณจากใจ” พร้อมภาพหญิงถือสร้อยคอทองคำ และมีชายสวมเสื้อสีส้มใส่หมวกแก๊ปยืนอยู่ข้างๆ
โดยหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ปรากฏว่า ได้มีผู้เข้ามาแสดงความยินดี และส่งต่อเรื่องราว รวมทั้งมีผู้เข้ามาชื่นชมคุณลุงขี่สามล้อเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ฤดี แสงทอง อายุ 35 ปี ผู้โพสต์เรื่องราวที่ได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 6 บาท พร้อมจี้ทองคำเป็นรูปปี่เซี๊ยะให้ดู และบอกว่า ตนเองและนางอัยชิฐา โกศล อายุ 56 ปี ได้เดินทางไปซื้อสินค้าในตลาดวัดกลาง ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้เป็นแม่ได้ถอดสร้อยเส้นดังกล่าวเก็บไว้ในกางเกง
กระทั่งผู้เป็นแม่ได้เดินแยกไปเข้าห้องน้ำบริเวณวัด จึงเริ่มรู้สึกตัวว่าทำสร้อยทองหายและพยายามเดินหาที่ลานจอดรถอยู่นานแต่ไม่พบ ตนเองจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊ก
“เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา ได้มีลุงซึ่งถีบรถสามล้อรับจ้างที่ทราบข่าวได้เดินเข้ามาแจ้งกับเจ้าของร้านทองที่รู้จักกันว่าเก็บสร้อยได้ในห้องน้ำภายในวัด และเจ้าของร้านทองได้โทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนเจอทองแล้ว ซึ่งขณะนั้นรู้สึกดีใจมากเพราะคิดว่าไม่น่าจะได้คืน และเมื่อเจอลุง แกบอกว่าไม่รู้ว่าจะติดต่อเจ้าของได้ที่ไหนเพราะแกไม่ได้เล่นโซเซียลจึงเอาสร้อยทองไปฝากไว้ที่บ้านลุง”
น.ส.ฤดี ยังบอกอีกว่า ดีใจที่ยังมีคนดีในยุคที่คนดีหายาก พร้อมยังบอกอีกว่าตนเองได้บนหัวหมูกับหลวงพ่อโสธรไว้เพื่อขอให้ได้สร้อยคืน
ขณะที่ นายมหา แสงทอง อายุ 81 ปี ลุงซึ่งมีอาชีพถีบรถสามล้อรับจ้างกล่าวว่า ตนเองจอดรถรอผู้โดยสารอยู่ภายในวัดกลาง และขณะเดินไปเข้าห้องน้ำได้เหยียบสร้อยทองแต่ยังไม่รู้ว่าทองปลอมหรือทองจริง จึงแจ้งไปยังคนรู้จักว่าเจอสร้อยคอทองคำและให้ช่วยบอกต่อว่าใครเป็นเจ้าของให้มาติดต่อรับคืน
“ตอนแรกที่เก็บสร้อยทองได้ไม่รู้ว่าทองจริงหรือไม่ ทำอะไรไม่ถูก ขณะที่คนรู้จักบางคนบอกว่าให้เก็บไว้ก่อนถ้าของหายเป็นเดือนแล้วไม่มีใครมารับคืนค่อยเอาไปขาย แต่เราไม่อยากได้ของเขา เพราะถึงจะจนปั่นสามล้อถีบและเก็บขวดขายก็อยู่รอดได้เพราะอยู่ตัวเดียว” คุณลุงวัย 81 ปี กล่าว
