คุมตัวลูกทรพีทุบหัวพ่อดับทำแผนรับสารภาพ เจ้าตัวยอมจุดธูปขอขมาศพพ่อตามคำขอแม่

อุดรธานี - ตำรวจน้ำโสม คุมตัวลูกทรพีทำแผนรับสารภาพ หลังก่อเหตุปิตุฆาต แย่งท่อนเหล็กกระหน่ำตีพ่อบังเกิดเกล้าจนเสียชีวิตคาที่ เจ้าตัวเผยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่อยากจุดธูปขมาพ่อ แต่แม่และญาติให้ขอขมาจึงยอม ตำรวจตั้งข้อหาหนัก ฆ่าบุพการี

จากกรณีนายธีระพงษ์ คำเกิด หรือเต๋า อายุ 26 ปี แย่งท่อนเหล็กกระหน่ำทุบศีรษะนายประภัย คำเกิด อายุ 47 ปี พ่อแท้ๆ ของตนเอง นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านเลขที่ 80 หมู่ 1 ต.โสมเยี่ยม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี หลังพ่อเมาและมีปากเสียงกับลูกชาย แต่ถูกลูกแย่งคว้าท่อนเหล็กทุบศีรษะพ่อจนเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุลูกชายเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้าน แล้วออกนั่งรอมอบตัวต่อตำรวจ อ้างป้องกันตัวถูกพ่อทำร้ายก่อน ที่น่าตกใจลูกชายเคยทำร้ายพ่อมาแล้วหลายครั้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (12 ม.ค.) พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม พร้อมด้วย พ.ต.ท.พรมมี โสระศรี รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ไพบูลย์ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.วิชิต ลาชัย รอง สว.สอบสวน สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจ สภ.น้ำโสม และตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี คุมตัวนายธีระพงษ์ คำเกิด หรือเต๋า อายุ 26 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านจุดเกิดเหตุ และจุดธูปขอขมาหน้าโลงศพพ่อหลังจากสอบสวนปากคำแล้วเสร็จ โดยแจ้งข้อหาหนัก “ฆ่าบุพการี”

ทั้งนี้ ขณะที่ตำรวจควบคุมตัวออกมาจากห้องขัง ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้ถาม นายธีระพงษ์ หรือเต๋า ว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับคำตอบอย่างเย็นชาด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยว่า รู้สึกเฉยๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้คิดอะไรหลังก่อเหตุ ไม่ได้โกรธพ่อ และไม่อยากจุดธูปขอขมาดวงวิญญาณของพ่อหน้าโลงศพด้วย และเมื่อคืนนอนหลับปกติ พ่อไม่ได้มาเข้าฝัน

จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายธีระพงษ์ ขึ้นรถตู้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่จัดงานศพ โดยมีกำหนดการเคลื่อนศพไปฌาปนกิจที่วัดหมู่บ้านในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (13 ม.ค.) ขณะทำแผนไม่มีเสียงใครก่นด่า สาปแช่ง หรือจะเข้ามาทำร้ายนายธีระพงษ์ แต่อย่างใด หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุเสร็จ นายธีระพงษ์ บอกตำรวจว่า หลังจากแย่งท่อนเหล็กมาจากมือพ่อได้แล้ว ได้กระหน่ำตีไปที่ศีรษะและใบหน้าพ่อแบบไม่ยั้ง เท่าที่นับได้ตีไปประมาณ 7 ครั้ง ก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้าน แล้วออกมานั่งรอมอบตัวต่อตำรวจ


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปจุดธูปขอขมาศพพ่อหน้าโลงศพที่ตั้งอยู่ภายในบ้าน แต่นายธีระพงษ์ ไม่อยากเข้าไปขอขมาศพพ่อตามที่เคยพูดก่อนหน้านี้ แต่นางน้อม ทองประทับ อายุ 47 ปี แม่ผู้ต้องหา รวมทั้งญาติผู้ใหญ่ได้บอกให้ นายธีระพงษ์ เข้าไปจุดธูปขอขมาศพพ่อเป็นครั้งสุดท้าย จะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันในชาติหน้า นายธีระพงษ์ จึงยอมทำตามคำขอของแม่และญาติ ด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยเย็นชา โดยไม่มีคำกล่าวใดๆ ออกมาจากปากเลยสักคำ จากนั้นได้คุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี

นางน้อม ทองประทับ อายุ 47 ปี เมียผู้ตายและแม่ผู้ต้องหา บอกว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสงสารลูกชาย ขณะเดียวกันก็ดีใจที่ลูกชายมาขอขมาศพพ่อที่บ้าน หลังพลั้งมือฆ่าพ่อ จะมีการเคลื่อนศพไปฌาปนกิจที่วัดในหมู่บ้านช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ ส่วนญาติสามีก็มาร่วมงานเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังทราบข่าว แต่วันนี้ยังไม่เห็นมาเลยสักคน คาดว่าคงจะมาในช่วงค่ำ ขณะเกิดเหตุตนไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะกลัวสามีจะทำร้าย จึงหันหลังทำทีไม่สนใจ และรู้สึกเฉย เพราะคิดว่าพ่อคงไม่กล้าฆ่าลูก แต่กลับเป็นลูกที่ฆ่าพ่อ


“อยากฝากเป็นอุทาหรณ์กับครอบครัวอื่นที่ชอบใช้ความรุนแรงกัน คิดว่าลูกชายคงเหลือทนในพฤติกรรมของพ่อ ที่ชอบดุด่าทำร้ายลูก อาละวาดคนในครอบครัวอยู่เป็นประจำ หรือใช้ความรุนแรงกับครอบครัว เวลาเมาเหล้า หากพูดกับลูกดีๆ คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ซ้ำลูกทำอะไรก็ผิดหูผิดตาไปหมด และบอกกับฉันว่าเกลียดลูกคนนี้มาก” นางน้อมกล่าว และว่า

หนักเข้าเมื่อ 2 วันก่อนเกิดเหตุไล่ลูกออกจากบ้าน และให้เปลี่ยนนามสกุลพ่อไปใช้นามสกุลแม่แทน ลูกชายคงเก็บกดสะสมมานานจึงเกิดเหตุสลดขึ้น ยืนยันหลังลูกพ้นโทษออกมาจะให้บวช ถึงอย่างไรก็เป็นพ่อลูกกัน จะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกันในชาติหน้า