ชาวบ้านต.วังชัย ร้องสุดทนกลิ่นควันไฟไหม้กองขยะ/แมลงวัน เดือดร้อนมากว่า 10ปี

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน ต.วังชัย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ร้องสื่อ เดือดร้อนจากบ่อขยะ 10 ไร่ ก่อมลพิษทางกลิ่นจากควันไฟไหม้กองขยะ ทั้งมีแมลงจำนวนมหาศาล ก่อความเดือดร้อนมากว่า 10 ปี ทั้งพระต้องกางมุ้งฉันภัตตาหาร วอนรัฐเร่งแก้ปัญหา


วันนี้ (10 ม.ค.) ที่บ่อเก็บขยะ ริมถนนทางหลวงชนบท ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง พร้อมด้วยตัวแทนผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้าน พาผู้สื่อข่าวตรวจดูสภาพของกองขยะขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยกองขยะดังกล่าวกำลังถูกไฟไหม้เกิดเป็นควันลอยคละคลุ้งทั่วพื้นที่ ส่งกลิ่นเหม็นแสบตาแสบจมูก ทำให้ชาวบ้านหลายชุมชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตร ได้รับความเดือดร้อน ต้องสูดดมกลิ่นควันไฟทั้งวันทั้งคืน โดยชาวบ้านบอกว่า เป็นแบบนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ทั้งยังต้องเดือดร้อนจากกองทัพแมลงวันจำนวนมหาศาล ที่บินเข้าไปในหมู่บ้าน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน

นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว บ่อขยะแห่งนี้เป็นบแบบฝังกลบของเทศบาลตำบลวังชัย นำขยะมาทิ้ง ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ขยะถูกไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ควันไฟจากบ่อขยะลอยตามลมเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง อย่างน้อย 3 หมู่บ้านของ ต.หนองกุง พอแจ้งเหตุไปที่หน่วยงานรับผิดชอบก็มีเพียงเอารถมาฉีดน้ำดับไฟ แต่ไม่นานไฟก็ประทุขึ้นอีก




นอกจากเรื่องควันไฟแล้ว ยังมีเรื่องของกองทัพแมลงวันจำนวนมหาศาล จนชาวบ้านต้องกางมุ้งกินข้าว ส่วนช่วงฤดูฝนก็ได้รับผลกระทบจากน้ำเน่าเสียจากกองขยะ กระทบไปถึงวิทยาลัยเทคโนโลยีพุทธเกษม และศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน อ.น้ำพอง ที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 1 กิโลเมตร จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างกำแพงล้อมบ่อขยะให้เป็นระบบปิด อนุญาตให้เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่เข้าออกได้ ป้องกันไม่ให้มีประเด็นว่ามีคนนอกเข้ามาเผาขยะ ซึ่งเรื่องนี้ชาวบ้านเรียกร้องมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขจริงจัง

ส่วนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพุทธเกษม ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อขยะ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร พระครูสุตศาสนการ รองเจ้าคณะอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น เล่าให้ฟังว่า ทางวัดได้รับความเดือดร้อนจากบ่อขยะดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว โดยเฉพาะปัญหาแมลงวัน เดิมพระและเณรแต่ก่อนนั่งฉันข้าวที่ศาลาการเปรียญรวมกัน ต้องหันมากางมุ้งฉันอาหาร ป้องกันแมลงวันรบกวน


แต่ทำแบบนี้ได้สักพักก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนมาฉันอาหารภายในกุฏิแทน แต่ก็ยังถูกแมลงวันตามกลิ่นอาหารเข้ามาในกุฏิ ต้องให้ช่างมาติดมุ้งลวดป้องกันแมลงวัน ขณะที่ญาติโยมที่มาวัด รวมทั้งนักเรียนที่มาเรียนที่นี้ ต่างก็เดือดร้อน ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดไม่อยากโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวช่วยกันหาทางแก้ไข เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น