xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านถูกเมียปลัดอำเภอหลอกนำบัตร ปชช.กู้เงินแบงก์ อ้างไม่ต้องใช้คืน ผ่านไป 3 เดือนเจอทวงหนี้อ่วมคนละ 2 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลย - ชาวบ้านโร่ร้องสื่อ เมียปลัดอำเภอที่ จ.เลยหลอกชาวบ้านนำบัตรประชาชนกู้เงินแบงก์ แต่ต้องยอมให้แบงก์หักไว้ 70% แลกกับไม่ต้องใช้หนี้ ชาวบ้านหลงเชื่อยกหมู่บ้านร่วม 100 คน คล้อยหลังแค่ 3 เดือนงงเป็นไก่ตาแตกเจอหนังสือทวงหนี้ บางรายติดหนี้สูงถึง 200,000 บาท แจ้งความแล้วแต่คดียังไม่คืบ


ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย เดินทางเข้าร้องเรียนที่ชมรมสื่อเสรีเลย ขอหน่วยงานราชการและธนาคาร ตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มมิจฉาชีพที่มาหลอกชาวบ้าน โดยจะเอาบัตรประชาชนไปทำบัตรกู้เงินด่วน โดยไม่ต้องใช้หนี้

แต่มีเงื่อนไขทางธนาคารจะหักเงินไป 70% จะได้เงินมาใช้เปล่าๆ 30% จึงมีชาวบ้านหลงเชื่อทำไปกว่าครึ่งหมู่บ้าน ร่วม 100 คน จากนั้นก็มีหนังสือทวงหนี้จากธนาคาร มาทวงจนสะดุ้ง รายละ 200,000 บาท

นางละเอียด ศรีมหานาม ตัวแทนชาวบ้านผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนจะเกิดเหตุวุ่นวายสร้างความเสียหายให้แก่ชาวบ้านดังกล่าว ในราวกลางปี 2563 ที่ผ่านมาได้มีอดีตภรรยาของปลัดอำเภอ สมมติชื่อ นางกอ เข้ามาพูดคุยกับพวกตนส่วนใหญ่ก็มีอาชีพทำไร่ทำสวน ฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำ นางกอบอกว่าจะหาเงินให้ใช้กันโดยไม่ต้องใช้หนี้ ใช้แค่บัตรประชาชนอย่างเดียว อีก 1-2 เดือนก็ได้ใช้เงินแล้ว แต่ธนาคารเขาจะหักเงิน 70% แล้วก็ไม่ต้องใช้หนี้ หายกันไปเลย พวกตนก็หลงเชื่อเป็นถึงอดีตคุณนายปลัดอำเภอ ก็ให้บัตรประชาชนไป


ต่อมาอีก 1 อาทิตย์ นางกอก็เอาซิมโทรศัพท์มาให้ ทั้งที่พวกตนไม่มีโทรศัพท์กัน และอีก 2 เดือนหลังจากนั้น เขาก็เอาเงินมาให้ใช้ก้อนแรก 19,000 บาทจริงๆ หลังจากนั้นเพื่อนบ้านได้ยินข่าวก็มาขอกันทำ อีกอาทิตย์ต่อมาเอามาให้ใช้อีก 12,000 บาท จากนั้นก็ได้ยินข่าวว่าบ้านนี้ก็ทำบ้านโน้นก็ทำ ทำกันเกือบหมดหมู่บ้าน รวมแล้วน่าจะร่วม 100 คน

หลังจากนั้นผ่านไปกว่า 3 เดือน ตนก็ได้รับใบหนังสือทวงหนี้จากธนาคารสีเขียว (ธนาคารกสิกรไทย) ยอดหนี้ 200,000 บาท ยังไม่รวมดอก ตนก็ตกใจไม่เคยเป็นหนี้มากมายขนาดนี้ จึงได้พากันไปถามธนาคาร ธนาคารก็งงเหมือนกันว่าเขาให้กู้ได้อย่างไร สเตทเมนต์ก็ไม่มี ถ้าเช่นนั้นก็น่าจะเป็นมิจฉาชีพและอาจจะมีพนักงานของธนาคารสาขานั้นให้ความร่วมมือด้วย


ทางธนาคารจึงแนะนำให้พวกตนไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกตนได้เข้าแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2563 แต่นางกอก็ยังใช้ชีวิตเป็นปกติ ไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด และที่มาร้องเรียนออกสื่อ กลัวว่าชาวบ้านหาเช้ากินค่ำคนอื่นๆ อย่างพวกตนจะถูกหลอกเป็นหนี้กับธนาคาร

"วันนี้สิ่งที่กลัวมากคือกลัวธนาคารยึดที่ทำกิน แล้วพวกเราจะอยู่กันอย่างไร อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยชี้ช่องทางหาทางออกให้พวกเราด้วย"


กำลังโหลดความคิดเห็น