xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่ม รปภ.วัย 50 ยิงอดีตแฟนสาววัย 22 ดับก่อนยิงตัวตาย พบข้อความระบายแค้น ช่วยทุกอย่างยังหนีไปคบชายอื่น แถมมาเรียกไอ้แก่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลพบุรี - หนุ่ม รปภ.วัย 50 ยิงอดีตแฟนสาววัย 22 ที่เป็น รปภ.ด้วยกัน ขณะออกกะเตรียมกลับบ้าน เสียชีวิตหน้าโรงงานเบทาโกร ลพบุรี หลังก่อเหตุหนีไปเปิดโรงแรมแล้วใช้อาวุธปืนยิงตัวตายหนีความผิด พบข้อความในมือถืออัดอั้นตันใจ คบชายอื่นทั้งที่ช่วยทุกอย่าง หนี้ที่ก่อตั้งแต่อยู่กับผัวเก่าก็ใช้ให้ ยังมาเรียกไอ้แก่ 

วันนี้ (18 ธ.ค.) พ.ต.ท.ศราวุธ  มหาชัย  สารวัตรสอบสวน สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชการญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.กริช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถ จยย.ริมกำแพง หน้าโรงงานเบทาโกร เลขที่ 13 ม.14 ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี โดยที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวแต่งชุด รปภ.นอนหงายเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ชลิตา ผาบหนูดำ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.6 ต.เกาะรัง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าที่หน้าอกมีรอยถูกยิง  3 รู ทะลุหลัง 1 รู           

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38  ตกอยู่ในบริเวณใกล้กับศพ จำนวน 5 ปลอก  สอบถามผู้เห็นเห็นเหตุการณเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นพนักงาน รปภ.ของโรงงานดังกล่าว กำลังออกจากกะไปขี่ จยย.เพื่อที่จะกลับบ้าน ได้มีนายอนุสรณ์ สุทธิประเสริฐ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 ต.เกาะรัง  อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ขับรถ จยย.ฮอนด้า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน  1 กท 7310 ลพบุรี  แฟนเก่าของผู้ตายที่ได้เลิกรากันไปแล้ว และได้มาหาผู้ตายเพื่อจะขอคืนดี แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนดี นายอนุสรณ์จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่แล้วหลบหนีไป 


ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์ รพ.พัฒนานิคม ตรวจสอบสภาพศพอยู่นั้น พ.ต.ท.สันพจน์ พลเรือง สารวัตรสอบสวน สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในโรงแรมรื่นรมย์ ถ.สายสระบุรี-หล่มสัก ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุจุดแรก ประมาณ 4 กม. เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจสอบในห้องที่ 1 ของโรงแรมดังกล่าว พบว่า ผู้ที่เสียชีวิตนอนหงายอยู่บนเตียง ทราบชื่อคือ นายอนุสรณ์ สุทธิประเสริฐ มือปืนที่ยิง น.ส.ชลิตา ตรวจสอบสภาพศพ พบว่า มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย ที่พื้นปลายเตียงพบปืนแมกกาซีนขนาด .38 มม. ไทยประดิษฐ์ตกอยู่ 1 กระบอก และพบปลอกกระสุนอีก 1 ปลอก 

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หลังจากนายอนุสรณ์ ก่อเหตุยิง น.ส.ชลิตา แล้วได้หลบหนีมาเปิดห้องพักที่โรงแรมดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามมา และได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัว แต่นายอนุสรณ์ ไม่ยอมออกมา และใช้อาวุธปืนยิงตัวตายดังกล่าว เบื้องต้น ได้แจ้งเจ้าหน้าที่วิทยาการพร้อมแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม มาทำการตรวจสอบต่อไป


เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในโทรศัพท์มือถือของนายอนุสรณ์ พบข้อความตัดพ้อระบายความคับแค้นที่มีต่อ น.ส.ชลิตา และผู้เป็นแม่ของ น.ส.ชลิตา ว่า “ผมจัดการยิงแอมเรียบร้อยมาเอาศพที่โรง 4 ด้วย สิ่งที่ผมทำมันอัดอั้นมานานแม่ไม่เคยคิดจะฟังผมเลยผมเข้าใจ แม่ย่อมเข้าข้างลูกอยู่แล้วแต่ความจริงมีแค่ผมกับแอมที่รู้ ผมรู้มาตั้งแต่เดือนตุลาแล้วว่ามันคุยกับผู้ชาย แต่มันไม่รับ ด่าผมพูดกูมึง ด่าพ่อผมด่าผมไอ้แก่..คับผมแก่มันรู้แต่แรกแล้วผมอายุเท่าไรแล้วมาอยู่คบกับผมทำไม

"ตอนเจอแรกๆ ที่อยู่ก็ไม่มี เงินก็ไม่มี งานก็ตก ไอ้แก่คนนี้แหละที่ช่วยเหลือดูแลมันมาตลอด 2 ปีช่วยมันใช้หนี้ตั้งแต่อยู่กับผัวเก่า ผมถามหน่อยมันจะมีสักกี่คนที่ผู้ชายอย่างผมจะยอมมาใช้หนี้ให้ พอผมไปถามยายเมื่อวันที่ 7 พ.ย.64 ยายเล่าความจริงมามันเลยรับไม่ได้ แม่ก็เช่นกัน ผมช่วยแม่แม่จำได้ไหม ตั้งแต่ผมอยู่กับแอม ที่ลาซาล แม่โทรมาขอยืมเงินตลอดผมก็ให้สุดท้ายก็ 1 หมื่นบาทแม่ก็ไม่เคยคืน ผมก็ไม่เคยคิด แต่เวลาผมลำบาก ล่าสุดผมโทรมาขอยืม 1,000 บาทคิดผมร้อยละยี่สิบบาท ผมถามหน่อยว่าจิตใจทำด้วยอะไรกัน รถมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ไม่ใช่ผมเหรอที่ช่วยมาตลอด ตอนไปคบกับผมใหม่ๆ ก็ค้างค่างวดผมก็ต้องไปยืมเงินเขามาเพื่อใช้ให้นี่แหละคนที่แม่และแอมเรียกว่าไอ้แก่"

หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบเรียบร้อย ได้นำส่งไปยัง รพ.ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เพื่อตรวจสอยโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น