ตาก - สถานการณ์สู้รบระหว่างทหารพม่า-กองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงยังไม่สงบ..วันนี้เปิดฉากระดมยิงกันอีกระลอก แถมระเบิดพลาดเป้าตกในชุมชนใกล้เมืองเมียวดี ชาวบ้านเจ็บต้องหนีตายขอข้ามน้ำเมยเข้าไทยเพิ่มอีก
วันนี้ (17 ธ.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNLA และ KNU ที่เกิดการปะทะกันบริเวณหมู่บ้านชายแดนฝั่งเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด หลายระลอกตั้งแต่ 15-16 ที่ผ่านมาว่า เสียงปืนจากการปะทะได้สงบลงชั่วครางตั้งแต่เที่ยงคืนเศษที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อเวลา 10.00 น.กองกำลังทหารทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากใช้อาวุธหนักหลายชนิดระดมยิงใส่กันอีกระลอก
ซึ่งการปะทะกันระลอกล่าสุดนี้ทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากใช้อาวุธหนักหลายชนิดระดมยิงใส่กัน แต่กระสุนบางส่วนพลาดเป้าหมายตกใส่บ้านเรือนประชาชน ทำให้ชาวเมียนมาในพื้นที่ปะทะต้องหนีตายอพยพออกจากบ้านเรือนกันอีก ล่าสุดพบผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาพยายามจะข้ามช่องทางธรรมชาติแม่น้ำเมย บริเวณคอกวัวเมยโค้ง บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด อีกประมาณ 300-400 คน ในกลุ่มนี้มีผู้บาดเจ็บประมาณ 3 คน
หลังจากตลอดวานนี้มีผู้หนีภัยฯ ชาวเมียนมาอพยพหนีตายข้ามแดนมาแล้ว และทางการไทยได้จัดให้ทั้งหมดพักภายในพื้นที่โรงเรียนบ้านแม่ตาวมิตรภาพเป็นการชั่วคราว รวมทั้งสิ้น 2,593 คน เป็นชาย 804 คน หญิง 910 คน เด็กชาย 348 คน เด็กหญิง 441 คน
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอดและภาคเอกชนได้นำสิ่งของจำเป็น รวมทั้งเครื่องนุ่งห่มกันหนาวและกางเต็นท์ให้ผู้หนีภัยฯ ได้นอนพักอาศัยเป็นการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเบื้องต้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านยังช่วยกันเปิดโรงครัวชั่วคราวที่วัดกลางหมู่บ้านใกล้กับจุดรองรับผู้หนีภัยฯ เพื่อประกอบอาหารเลี้ยงผู้หนีภัยสงคราม แต่ห้ามไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เพื่อป้องกันโควิดที่อาจจะมากับผู้หนีภัยการสู้รบได้
ทั้งนี้ มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการด้วยว่า กรณีการปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่ายตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้น มีทหารของกองทัพเมียนมาเสียชีวิตแล้ว 6 นาย ถูกจับกุมได้ 13 นาย รวมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 นาย หนึ่งในนั้นคือ พ.ท.ติ่นเลอ่อง ผบ.พัน คร.560 ที่ถูกซุ่มยิงในระยะไกลจากสไนเปอร์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
นอกจากนี้ การสู้รบกันดังกล่าวทำให้กระสุนปืน ค.หลายลูกตกลงในเขตหมู่บ้านเลเก้ะก่อ ตรงข้าม อ.แม่สอด จนทำให้บ้านเรือนชาวเมียนมาได้รับความเสียหาย และมีรายงานว่ามีคนในหมู่บ้านเสียชีวิต 6 ราย จนเป็นเหตุให้คนจากหมู่บ้านดังกล่าวและหมู่บ้านแม่ทอตะเลพากันขนข้าวของหนีข้ามแม่น้ำเมยเข้าสู่เขตบ้านดอนไชย หมู่ 6 ต.แม่ตาว และบางส่วนเข้ามาทางบ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด ดังกล่าว
ทั้งนี้ ขณะที่ชาวบ้านจากหมู่บ้านทอตะเลข้ามลำน้ำมาอยู่ที่คอกวัวแห่งหนึ่งในฝั่งไทย ปรากฏว่าได้มีลูกกระสุนปืน ค.ไม่ทราบชนิดตกเข้ามาในฝั่งไทยบริเวณไร่อ้อยจนเกิดไฟลุกไหม้ทำให้เทศบาล ต.แม่ตาว ได้นำรถดับเพลิงเข้าไปดับไฟไม่ให้ลุกลาม และเจ้าหน้าที่ไทยต้องพาทั้งหมดไปพักพิงอยู่ภายในโรงเรียนบ้านแม่ตาวมิตรภาพที่หมู่บ้านแม่ตาว หมู่ 2 ต.แม่ตาว อย่างไรก็ตาม ระหว่างการหลบหนีได้มีผู้อพยพได้รับบาดเจ็บที่แขนจำนวน 1 คนชื่อว่า นายโก่ทู อายุ 53 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยเข้าปฐมพยาบาลและนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดแล้ว
แหล่งข่าวชายแดนระบุว่า การสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับกองกำลังต่อต้านต่างๆ ในเขตรัฐกะเหรี่ยงในครั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ทาง ฉก.ร.4 กองกำลังนเรศวร ฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด สภ.แม่สอด ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แม่สอด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดแนวพรมแดนแม่สอด
และห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่ใกล้พื้นที่แนวปะทะอย่างเด็ดขาด หลังเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) มีกระสุนปืน ค.81 มม.ลอยข้ามแดนมาตกกลางไร่อ้อยฝั่งประเทศไทย 1 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ