xs
xsm
sm
md
lg

แม่ร้องสื่อพริตตี้สาวขี่ จยย.ชนราวสะพานดับ จนท.บอกล้มเอง แต่คลิปวงจรปิดพบรถต้องสงสัยวิ่งผ่าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - แม่โพสต์เฟซบุ๊กร้องสื่อลูกสาวอาชีพพริตตี้ ประสบอุบัติเหตุขี่ จยย.ชนราวสะพานพระสังฆราชฯ เสียชีวิต ติดใจสาเหตุการตายของลูกสาว วอนสื่อช่วยตรวจสอบ เผยคลิปวงจรปิดมีรถต้องสงสัยวิ่งในเวลาประสบเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ผ่านมา บุคคลที่ใช้นามว่า “ดา หงส์ทอง” ได้นำภาพลูกสาวนอนเสียชีวิตอยู่บนสะพานสังฆราชฯและรูปภาพรถจักรยานยนต์ที่ล้มคว่ำอยู่ใกล้กันมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับบรรยายข้อความเอาไว้ว่า

“ขอเรียกร้องความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนทุกสื่อให้ลูกสาว หรือน้องกุ๊บกิ๊บ ซึ่งถูกรถชนแต่เจ้าหน้าที่บอกน้องรถล้มเองและเสียชีวิตเองและไม่มีรอยเฉี่ยวชน แต่ทางเราไปดูสภาพร่างของน้องกุ๊บกิ๊บ มีบาดแผลฉกรรจ์ซึ่งเป็นลักษณะโดนรถชนไม่ใช่เป็นการรถล้มแล้วเสียชีวิตเองอย่างแน่นอน และทางเราได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่แต่ได้คำตอบคำแรก คือให้ทางเราไปหาหลักฐานมายืนยันว่าน้องโดนรถชนและเสียชีวิต

ซึ่งเป็นคำตอบที่เราน่าสลดใจกับคำตอบนี้ แต่ทางเราก็ไม่นิ่งนอนใจและอยู่เฉยได้ แม้แต่ร่างของน้องนอนอยู่ในวัด พวกเราทุกคนก็วิ่งหาหลักฐานมาได้มากที่สุดโดยที่เจ้าหน้าที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ จนมาถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ยังบอกว่ารอผลชันสูตรจากนิติเวช แต่ถ้าเป็นเช่นนี้เราจะไปพึ่งหรือขอความช่วยเหลือจากใครได้และจะไปเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องกุ๊บกิ๊บได้อย่างไร

จึงต้องขอวอนจากสื่อทุกสื่อช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องกุ๊บกิ๊บและครอบครัวของเราด้วยค่ะ น้องกุ๊บกิ๊บ ยังมีลูกเล็ก 1 คน อายุ 1 ขวบ 4 เดือน ซึ่งตอนนี้เด็กคนนี้ขาดทั้งพ่อและแม่ และตอนนี้คดีก็ยังเงียบไม่มีอะไรคืบหน้าเลย


น้องเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 จนมาถึงตอนนี้คดียังย่ำอยู่กับที่ เหมือนทำให้ทางเราต้องวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่เองทุกเรื่อง จนทำให้หัวอกคนเป็นแม่ต้องน้ำตาไหลทุกวัน และคิดว่าจะไปเรียกร้องความยุติธรรมจากใคร มาถึงขณะนี้หัวอกคนเป็นแม่กับความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด คือจุดที่เสียดวงใจของแม่ไป 1ดวง และหาความยุติธรรมไม่ได้

จึงขอวิงวอนสื่อช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องกุ๊บกิ๊บด้วยค่ะ หัวอกคนเป็นแม่หัวใจแทบสลายจนถึงทุกวันนี้ ถ้าสื่อไหนได้เห็นโพสต์นี้ ขอร้องช่วยหัวอกคนเป็นแม่เรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องกุ๊บกิ๊บ หรือ นางสาวฐานิดา พวงแก้ว เป็นผู้เสียชีวิตที่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ด้วยเถอะค่ะ…หัวใจแม่แทบสลายเมื่อเห็นดวงใจของแม่ดับลง แต่หาคนชนไม่ได้และความยุติธรรมอยู่ตรงไหนคะ…ขอวอนสื่อช่วยด้วยค่ะ” หลังจากบุคคลดังกล่าวโพสต์ข้อความลงไปในเฟซบุ๊ก ปรากฏมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมแนะนำและให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.ญาณี วัฒนา หรือดา อายุ 48 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก “ดา หงส์ทอง” ที่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 10 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดย น.ส.ญาณี เปิดเผยว่า ตนเป็นแม่ของ น.ส.ฐานิดา พวงแก้ว หรือกุ๊บกิ๊บ อายุ 19 ปี ผู้เสียชีวิต โดยลูกสาวอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 777 หมู่ 7 ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งลูกสาวทำงานเป็นพีอาร์รับจ้างชงเหล้า รวมทั้งรับจ้างเต้นโคโยตี้ และรับงานเอนเตอร์เทนต่างๆ เพื่อหารายได้มาเลี้ยงลูกที่เพิ่งมีอายุได้เพียงแค่ 1 ขวบเท่านั้น


ลูกสาวของตนได้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 เวลาประมาณ 04.25 น. บริเวณสะพานสมเด็จพระสังฆราช ที่ใช้ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ลักษณะขี่รถจักรยานยนต์เข้ามายังตัวเมืองกาญจนบุรี สภาพศพของลูกสาวนอนหงายเสียชีวิต มีบาดแผลหลายแห่ง ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของลูกสาวล้มตะแคงด้านซ้ายและอยู่ห่างจากศพของลูกสาวตนประมาณ 3 เมตร

โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พยายามช่วยเหลือชีวิตลูกสาวของตนอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถช่วยเอาไว้ได้ และนอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา ร่วมพิสูจน์ศพ มี ร.ต.ท.อาชวิน อ่องเมือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี จดทำบันทึกข้อมูลเพื่อใช้เป็นหลักฐานถึงสาเหตุ

สำหรับหลักฐานที่ได้มาเป็นกล้องติดหน้ารถยนต์ที่มีพลเมืองดีนำมามอบให้ จากคลิปพบว่าพลเมืองดีขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุห่างกันประมาณ 5 นาที โดยกล้องจับภาพขณะที่ลูกสาวของตนนอนอยู่กลางถนน โดยมีรถยนต์กระบะที่ขับมาจากทางเชิงสะพานฝั่งวงเวียนหน้าวัดเหนือ จอดขวางถนนพร้อมเปิดสัญญาณไฟเพื่อเป็นการเตือนให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวได้รับรู้ว่าบริเวณดังกล่าวนั้นมีอุบัติเหตุ โดยรถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุแต่อย่างใด

ล่าสุด พลเมืองดีได้นำเมมโมรีการ์ดที่ใช้บันทึกภาพจากกล้องหน้ารถมามอบให้เอาไว้เป็นหลักฐาน แต่คืนที่ผ่านมาตนได้เปิดดูคลิปอีกครั้งหนึ่งผลปรากฏไม่สามารถดูได้เนื่องจากไฟล์ภาพถูกลบไปแล้ว แต่ตนได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญมากู้คืนจำสำเร็จ ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ไม่ได้ติดตามหาข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด และได้แจ้งให้ตนทราบว่า มีคดีอยู่หลายคดีที่ต้องทำ จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และยังแจ้งอีกว่าลูกสาวเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตเอง


น.ส.ญาณี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวของตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งเพื่อนที่อยู่ฝั่งบ้านลิ้นช้าง ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดอุบัติเหตุมากนัก จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาบ้านและมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากทราบข่าวตนจึงรีบไปดู

ตนได้สังเกตที่เกิดเหตุพบมีพิรุธและเกิดความสงสัยว่า แค่ลูกสาวของตนขับรถล้มเท่านั้นแต่ทำไมสภาพศพถึงได้มีบาดแผลยับเยินขนาดนั้น ส่วนสภาพของรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายเพียงแค่ถลอกด้านข้างที่ครูดกับผนังสะพานเป็นทางยาวระยะทาง 20เมตร ก่อนรถจะล้ม ดังนั้น ตนกับครอบครัวรวมทั้งญาติพี่น้องจึงเกิดความสงสัยและไม่เชื่อว่าแค่ล้มเองจะเป็นเหตุทำให้ลูกสาวถึงกับต้องเสียชีวิต เมื่อมีข้อสงสัยจึงได้สอบถามไปยังร้อยเวรเจ้าของคดี แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

ตนและญาติพี่น้องทุกคนจึงช่วยกันออกตามหาหลักฐานเพื่อให้ทราบความจริง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดอยู่หลายตัว
กล้องสามารถจับภาพขณะลูกสาวของตนขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งเพื่อนที่บ้านลิ้นช้าง ที่สำคัญคลิปที่พลเมืองดีนำมามอบให้นั้นสามารถจับภาพรถยนต์ขณะกำลังวิ่งไปทางบ้านลิ้นช้าง ก่อนที่ลูกสาวของตนจะประสบกับอุบัติเหตุจนเสียชีวิต

ยิ่งทำให้ตนมั่นใจว่า การเสียชีวิตของลูกสาวไม่ใช่เพียงแค่เกิดอุบัติเหตุเสียหลักล้มเอง แต่น่าจะเกิดจากการที่ลูกสาวขับรถจักรยานยนต์เสียหลักชนขอบสะพานแล้วล้ม จากนั้นรถยนต์ที่ขับสวนทางไปเหยียบซ้ำแล้วคนขับเหยียบคันเร่งหลบหนีไป

อีกประเด็นคือมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่สวนสาธารณะ ได้ยินเสียงรถล้มจึงเดินไปดูและยังพบว่าลูกสาวของตนได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่กับพื้นอยู่เลย แต่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ทราบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร
โดยตนได้บันทึกเสียงการพูดคุยเอาไว้ แต่ต่อมาทราบว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าวได้ลาออกจากงานไปแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้ตนมีความรู้สึกว่าแย่และถามกับตัวเองว่า ทำไม ความยุติธรรมยังไม่ปรากฏเสียที

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ น.ส.ญาณี ให้ข้อมูลสื่อมวลชนแล้วเสร็จ น.ส.ญาณี พร้อมครอบครัวได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่ออธิบายและชี้เส้นทางการเดินทางของลูกสาวรวมทั้งจุดเสียชีวิตบนสะพานสมเด็จพระสังฆราช

จากนั้นได้นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถหามาได้เปิดให้สื่อมวลชนดู พร้อมเล่าลำดับขั้นตอนของเหตุการณ์ให้ทราบว่า ครอบครัวได้ติดตามหาวิดีโอกล้องวงจรปิดได้หลายจุด สามารถระบุเวลา และนำวิดีโอมาปะติดปะต่อกันจนทราบเรื่องราวก่อนเกิดเหตุ และวิดีโอจากกล้องหน้ารถพลเมืองดีขับก่อนมาถึงที่เกิดเหตุไม่มีรถยนต์สวนมาสักคันเมื่อข้ามสะพานเล็กก่อนจะขึ้นสะพานสมเด็จพระสังฆราชพบรถยนต์ทั้ง 3 คัน ที่ขับข้ามสะพานสมเด็จพระสังฆราช จากฝั่งวัดเหนือสวนลงมา และคันสุดท้ายจอดบนถนนเพื่อกันรถที่ตามหลังมา ส่วนรถยนต์คันแรกที่ขับไปอยากให้เข้ามาให้รายละเอียดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือนำรถยนต์คันดังกล่าวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้ตนหายสงสัย

ตนรู้สึกเสียใจมากที่สูญเสียลูกสา; ซึ่งลูกสาวคนนี้มีความขยันทำงานและเป็นที่รักของกลุ่มเพื่อนมาก
และที่สำคัญลูกชายยังเล็ก อายุเพียงแค่ 1ขวบเศษเท่านั้น สุดท้ายนี้ตนอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาสาเหตุที่แท้จริงให้เร็วที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น