บุรีรัมย์ - “แม่น้องหญิง” ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือ พร้อมจุดธูปบอกวิญญาณลูกสาวเหยื่อเบนซ์จะไม่ตายฟรี เชื่อความเป็นธรรมมีจริง หลัง คปภ.สั่งปรับบริษัทประกันขั้นสูงสุดกว่า 1.8 ล้าน และปรับรายวันวันละ 20,200 บาท ฐานประวิงจ่ายสินไหมทั้งที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว วอนบริษัทอย่ายื้อต่ออีกเลยแค่นี้ก็เจ็บปวดมากพอแล้ว หากได้เงินสินไหมจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูก
วันนี้ (9 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ทำประกันภัยไว้กับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของ น.ส.พัชราภา เกรัมย์ หรือ “น้องหญิง” นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เป็นเหตุให้น้องเสียชีวิต เหตุเกิดก่อนถึงทางกลับรถบ้านสองชั้น ต.สองชั้น อ.กระสัง เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา และศาลจังหวัดบุรีรัมย์มีคําพิพากษาถึงที่สุด ตามคดีหมายเลขแดงที่ อ.1606/2564 ลงวันที่ 31 ส.ค. 64 ว่าผู้เอาประกันภัยซึ่งขับขี่รถเบนซ์ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และล่าสุดคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับของ คปภ.ส่วนกลาง จึงมีมติให้เปรียบเทียบปรับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในอัตราโทษสูงสุดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,858,400 บาท และปรับรายวันอีกวันละ 20,200 บาท จนกว่าจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต “ความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหม” เป็นโทษปรับทางอาญา ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ “น้องหญิง” พบ นางสมเร็จ เกรัมย์ ผู้เป็นแม่กำลังจัดเตรียมข้าวอาหารไว้ที่หน้ารูปของลูกสาวตามประเพณีความเชื่อเหมือนที่เคยปฏิบัติมา ส่วนผู้เป็นพ่อออกไปรับจ้างอัดฟางฟ่อน หลังจากจัดเตรียมข้าวอาหารให้ลูกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นแม่ยังได้จุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณของลูกสาวด้วยว่า “หญิงเอ๋ย หนูจะได้ความเป็นธรรมจากหน่วยงานหลายๆ หน่วยงานแล้วนะ หนูจะไม่ตายฟรีแล้วนะ มีคนมาช่วยหนูเยอะแยะเลยลูก หนูต้องช่วยแม่ให้สู้ๆ นะลูก ให้บริษัทยอมจ่ายเร็วๆ นะลูก อย่าไปยืดเยื้ออะไรกับลูกแม่อีกเลย ตอนนี้แม่เหนื่อยมากเลยเพราะแม่ก็ไม่สบายด้วย”
คุณแม่ยังบอกด้วยว่าถ้าบริษัทจ่ายค่าสินไหมให้ก็จะเอาเงินที่ได้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับลูกสาว ซึ่งพ่อกับแม่จะทำบุญให้กับลูกเรื่อยๆ และบางส่วนจะใช้หนี้ตอนที่จัดงานศพให้กับลูกสาวด้วย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นทางบริษัทประกันติดต่อมาพูดคุยอะไรเลย แต่เชื่อว่าความเป็นธรรมยังมีอยู่จริง หลังจาก คปภ.ได้มีคำสั่งปรับบริษัทประกันภัยกว่า 1.8 ล้านบาท และปรับรายวันอีกวันละ 20,200 บาท โทษฐานที่ประวิงการจ่ายค่าสินไหม
“แม่ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และหวังว่าทางบริษัทจะไม่ยื้อต่อไปอีก เพราะเงินสินไหมจำนวนดังกล่าวถ้าแลกกับชีวิตคนคนหนึ่งถือว่าไม่มาก อยากจะฝากถึงทางบริษัทอย่ายื้อต่อไปอีกเลย เพราะแค่นี้พ่อกับแม่เหนื่อยและเจ็บปวดมากพอแล้ว” นางสมเร็จกล่าว