พิษณุโลก - รถไหลชนท้ายเก๋งจอดติดไฟแดงแยกบ้านกร่างเมืองสองแคว แต่กลุ่มสาวประเภทสองหลงทิศคิดว่ารถคันหน้าถอยชน ขับรถตามด่า-โพสต์คลิปลงติ๊กต็อก ขณะที่พยานคนขายของยันเห็นกับตารถคันหลังไหลชนท้ายคันหน้า
วันนี้ (7 ธ.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งเผยแพร่คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เวลาประมาณ 11.18 น. กลุ่มสาวประเภทสองจอดรถติดไฟแดงสี่แยกบ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก เกิดกระทบกระทั่งกับรถที่จอดด้านหน้า เนื่องจากเข้าใจว่ารถคันหน้าใส่เกียร์ถอยหลังมาเกือบชนหน้ารถเก๋งของตัวเอง ก่อนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น จากนั้นยังขับรถตามรถคันหน้า พร้อมไล่ด่าตลอดทาง
“น้องลิซ่า” สาวประเภทสอง อายุ 32 ปี เปิดเผยว่า ตนเดินทางมากับกลุ่มเพื่อนสาวประเภทสองจากจังหวัดชุมพร ตอนนั้นได้จอดรถติดไฟแดงบริเวณสี่แยกบ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งมีรถเก๋งคันหนึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ด้านหน้า และมีชายขายของอยู่ริมถนน
แต่ทันใดนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวจู่ๆ ก็ได้ใส่เกียร์ถอยหลังมาเกือบจะชนด้านหน้ารถเก๋งของตนเอง ขณะนั้นชายที่ขายของได้เข้ามาพยายามเคาะกระโปรงรถ และบอกว่ารถเก๋งคันข้างหน้าจะชนรถของพวกตน จากนั้นน้องสาวที่เป็นคนขับรถได้ลงไปดูพร้อมกับคู่กรณีที่เป็นหญิงสาวอายุประมาณ 50 ปี และได้มีการยืนพูดคุยกัน
แต่คู่กรณีคนขับรถเก๋งคันด้านหน้ากลับหาว่าเป็นความผิดของฝ่ายตน ทั้งๆ ที่รถตนจอดอยู่เฉยๆ เมื่อเห็นว่ารถกำลังถอยหลังมาก็ใส่เกียร์ถอยหลังเพื่อไม่ให้ชน แต่สุดท้ายคู่กรณีเดินไปขึ้นรถ โดยที่ไม่ได้กล่าวคำขอโทษแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังจอดรถแช่เอาไว้ไม่ให้ตัวเองขับออกไปได้เหมือนเป็นการกลั่นแกล้ง
“ด้วยความที่เกิดอารมณ์โมโหจึงขับรถตามไล่ถ่ายคลิปเพื่อดูทะเบียนบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับด่าทอด้วยความโมโห ก่อนจะนำคลิปดังกล่าวไปโพสต์ลงในติ๊กต็อก โดยไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ที่สนใจเข้าไปคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้อยากจะให้สังคมมองว่าพวกเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิดแต่อยากจะให้คู่กรณีขอโทษเท่านั้น”
ขณะที่คนขายนมเปรี้ยว (อยู่กลางถนน) ซึ่งปรากฏอยู่ในคลิปเหตุการณ์ เล่าว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เพราะว่าจริงๆ แล้วในวันเกิดเหตุรถเก๋งของคู่กรณีที่ถูกอ้างว่าถอยมาชนด้านหน้ารถของกลุ่มสาวประเภทสองนั้น จริงๆ แล้วเป็นรถเก๋งของกลุ่มสาวประเภทสองที่ไหลไปชนกับรถคันหน้าเอง ตนจึงต้องรีบเคาะกระโปรงรถเตือนเพื่อไม่ให้ชนกัน แต่ก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่น่าจะมีเหตุการณ์บานปลายใหญ่โตอะไร รถก็ไม่ได้มีร่องรอยเสียหายใดๆ เลย คนไทยเหมือนกันก็อยากจะให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ คุยกัน ปัญหาทุกอย่างจะได้จบลงเอยด้วยดี