บุรีรัมย์ - ผู้การฯ ตำรวจบุรีรัมย์เรียกสอบข้อเท็จจริง “รอง ผกก.” สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ หลังมีคลิปชาวบ้านบุกทวงเงินหวยใต้ดินกับภรรยาอ้างถูกเบี้ยวเกือบ 7 แสนแชร์ว่อน ยันหากพบมีการซื้อขายหวยใต้ดินจริงยันเอาผิดทั้งคนซื้อคนขาย ส่วน “รอง ผกก.” หากมีส่วนเกี่ยวข้องเอาผิดทั้งวินัยและ กม.
วันนี้ (3 ธ.ค.) จากกรณีที่เฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว” นำเสนอคลิปภาพการเจรจากันที่บ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการเจรจาทวงเงินค่าหวยใต้ดินที่ซื้อกับภรรยานายตำรวจท่านหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยในคลิปมีนายตำรวจเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติ ใจความในคลิประบุเหมือนมีการต่อว่ากันไม่เคารพผู้ใหญ่ เพราะลูกชายของนายตำรวจท้าให้ผู้ที่มาทวงเงินไปฟ้องเอาเงินค่าหวยที่ถูกร่วม 7 แสนบาทในงวดวันที่ 16 พ.ย. 64 ซึ่งสลากกินแบ่งรัฐบาลออกรางวัลที่ 1 หมายเลข 032761 เลขท้าย 2 ตัวออก 57
โดยกลุ่มที่มาทวงได้นำหลักฐานการซื้อทางไลน์ คือซื้อ 761 = 1,000 X 1,000 ปกติจะจ่ายกันบาทละ 450 บาท คิดเป็นเงิน 450,000 บาท และโต๊ดอีกบาทละ 100 คิดเป็นเงิน 100,000 บาท นอกจากนี้ ยังซื้อเลข 61= 1,000X1,000 ซึ่งเจ้ามือจะจ่ายกันที่บาทละ 70 บาท ถูกขาเดียวคิดเป็นเงิน 70,000 บาท และยังมีญาติฝากซื้อ 61= 500X500 บาทละ 70 บาท ถูกขาเดียวคิดเป็นเงิน 35,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 655,000 บาท ทำให้โลกออนไลน์ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ต.รุทฌธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคลิปการทวงเงินค่าหวยใต้ดินแชร์ในโลกออนไลน์ โดยระบุว่าเป็นภรรยาของนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์เบี้ยวเงินค่าหวยใต้ดินเกือบ 7 แสนบาท ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่าผู้ที่ปรากฏในคลิปเป็นภรรยาของรองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) ฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์จริง ซึ่งได้เรียกรองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามนายดังกล่าวเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงว่าที่ปรากฏในคลิปเป็นลักษณะใด
เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีการซื้อขายหวยใต้ดินกันจริง แต่ใครจะเป็นคนซื้อหรือคนขายและมีใครเกี่ยวข้องบ้างนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ละเอียดอีกครั้ง แต่หากพบว่าภรรยาของนายตำรวจดังกล่าวมีการขายหวยจริง จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายฐานขายสลากกินรวบ ส่วนคนซื้อต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ารองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามนายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการซื้อขายหวยใต้ดิน ต้องถูกดำเนินการเอาผิดทั้งวินัยและกฎหมายเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่มีใครมาแจ้งความหรือร้องเรียนแต่อย่างใด มีเพียงการเผยแพร่คลิปการทวงเงินในโซเชียลฯ เท่านั้น
“ตามนโนบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้เน้นย้ำไม่ให้ตำรวจทุกนายเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขหรือสิ่งผิดกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด แต่ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นต้องสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย” พล.ต.ต.รุทฌธพลกล่าว