ศูนย์ข่าวศรีราชา-ผู้ประกอบการสถานบันเทิงเมืองพัทยาวอนรัฐเร่งพิจารณาอนุญาตให้เปิดให้บริการก่อนเทศกาลปีใหม่ หวังสร้างแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะที่การจัดเสวนาพิเศษพบกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวชี้หากถึงเดือน ก.พ.65 เศรษฐกิจไม่กระเตื้องมีปิดตัวอีกเพียบ
จากที่รัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ถึงวันนี้ยังพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เดินทางเข้าไทยเท่าที่ควร จะมีแต่เพียงนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวชาวไทยเท่านั้นที่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว
ผลที่ตามมาก็คือผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในขนาดกลางถึงเล็กต้องเจอปัญหาการแข่งขันด้านราคา และหลายรายแบกรับภาระไม่ไหวจนต้องม้วนเสื่อหนีไป โดยเชื่อว่าหากถึงช่วง High Season แล้วสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวยังไม่กระเตื้องก็อาจต้องมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่ต้องปิดตัวไป
เช่นเดียวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ที่ปัจจุบันยังพบว่าไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด ที่สำคัญรัฐบาลยังไม่ประกาศให้ผูประกอบการสถานบันเทิงเปิดบริการใด จนทำให้หลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
ล่าสุด นายดำรงเกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ภาครัฐควรเร่งพิจารณาผ่อนปรน รวมทั้งมาตรการหรือกฎเกณฑ์ใดๆ ที่จะทำให้สถานบันเทิงสามารถเปิดบริการได้ก่อนเทศกาลคริสมาสต์ หรือปีใหม่
ทั้งนี้ เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจในการเดินทางเข้ามายังเมืองพัทยาให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่ซบเซาอย่างหนักในช่วงกว่า 2 ปี ที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานราชการในทุกด้านอย่างด้วยความเคร่งครัด และยังเชื่อมั่นว่าปัจจุบัน เมืองพัทยา มีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระดับที่น่าพอใจ
เห็นได้จากยอดการรับวัคซีนของประชาชนในพื้นที่ที่มีมากกว่า 80 % โดยเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มและผู้ที่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 ที่ขณะนี้ใกล้ครบจำนวนแล้ว
“ ที่ผ่านมาเมืองพัทยา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงเล็กน้อย จนสามารถที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ในหลายกิจกรรม และยังได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรณีการเปิดสถานบันเทิงอาจเป็นภาระที่ ศบค.ต้องพิจารณาอย่างหนักเพราะถือเป็นกระแสสังคมที่อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดหรือคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นได้”
อีกทั้งขณะนี้ในหลายประเทศยังเจอปัญหาการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 แต่การพิจารณาให้เปิดสถานบันเทิง จะ แก้ไขปัญหาเรื่องแรงงาน เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ในพื้นที่ๆมีความปลอดภัยได้
ทางสมาคมฯ จึงขอเสนอให้รัฐประกาศมาตรการผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการผับแอนด์เรสเตอรองส์ หรือบาร์เบียร์ ซึ่งเปิด บริการในลักษณะ Open Air สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ เพราะสามารถกำหนดที่นั่งที่แบบเว้นระยะห่างทางสังคมได้แบบสบาย
“ หรือหากมีมาตรการและข้อกำหนดใดๆ ที่ผู้ประกอบการสามารถกระทำได้พวกเราก็พร้อมน้อมรับเช่นกัน เพื่อขอให้สามารถเปิดดำเนินการได้เช่นเดียวกับพื้นที่ 4 จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้เมืองพัทยา กลับมามีสีสันอีกครั้ง” เลขานุการสมาคมอุตฯบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าว
สอดคล้องกับการจัดเสวนาพิเศษพบกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว เรื่อง “โครงการรีบูทท่องเที่ยวไทยด้วยตลาดพรีเมียม “สีสันตะวันออก” ท่องเที่ยวเมืองเศรษฐกิจ EEC ขับเคลื่อนเชื่อมโยง 5 ภูมิภาค”ซึ่งสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานพัทยา จัดขึ้นที่โรงแรฮาร์ดร็อค พัทยา
ที่มีตัวแทนจากองค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากที่ได้ข้อสรุปว่าสถานประกอบการโรงแรมในเมืองพัทยา นับพันรายทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีจำนวนห้องพักรวมกว่า 1.2 แสนห้อง ยังมีสัดส่วนการเข้าพักไม่ถึง 50 % และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกพักในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวที่มีการจัดโปรแกรมลดราคาเพื่อดึงดูดความสนใจเท่านั้น
โดย นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เผยว่าสาเหตุที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบเพราะยังติดปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประ เทศ โดยเฉพาะ รัสเซีย อินเดีย และจีนที่เป็นกลุ่มตลาดหลักของไทย
อีกทั้งขั้นตอนและวิธีการเข้ามาพำนักในประเททศไทยที่ค่อนข้างยุ่งยากจึงทำให้นักท่องเที่ยวไร้อิสระในการเดินทาง จึงทำให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยขณะนี้มีเพียงกลุ่มครอบครัว หรือนักธุรกิจเท่านั้น
เช่นเดียวกับ นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ที่กล่าวว่าการจัดกิจกรรมงานพลุพัทยา ที่ผ่านมามีเพียงนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้นที่ทำให้ยอดการเข้าพักในโรงแรมต่างๆ เต็มเกือบเต็ม 100 % ดังนั้นหากพ้นฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ไปจนถึงเดือน ก.พ. 65 สถานการณ์การท่องเที่ยวยังไม่ดีขึ้นอาจต้องมีกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ต้องปิดตัวลงอีกอย่างแน่