บุรีรัมย์ - พระฉาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จ้างเด็กนักเรียนปั่นจรวดในกุฏิโร่รับทราบข้อหาที่ สภ.ลำดวน หลังผู้ปกครองแจ้งความ แต่ยังปฏิเสธไม่ได้อนาจารแค่นวดแก้ปวดไส้เลื่อน เจอข้อหาพรากเด็กเพื่ออนาจาร จนท.รุดช่วยเหลือคุ้มครองเด็กที่ถูกกระทำ คณะสงฆ์จ่อพิจารณาพระธรรมวินัย พบมีเด็กตกเป็นเหยื่อหลายราย แต่ผู้ปกครองไม่กล้าพาเข้าแจ้งความเหตุกลัวไม่ปลอดภัย
วันนี้ (29 พ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้เผยแพร่คลิปเสียงพูดคุยกับเด็กนักเรียน ที่เล่าถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งอยู่ในที่พักสงฆ์ติดกับโรงเรียน ว่าพระรูปดังกล่าวมีพฤติกรรมกระทำอนาจารเด็กชายหลายคน ตั้งแต่ชั้น ป.3-ป.5 ด้วยการเรียกเด็กนักเรียนเข้าไปในกุฏิแล้วหลอกล่อให้ช่วยนวดอัณฑะและอวัยวะเพศให้ อ้างว่านวดเพื่อแก้ปวดโรคไส้เลื่อน แต่บางครั้งให้เด็กทำจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นพระรูปดังกล่าวจ่ายเงินให้เด็กคนละ 30 บาท ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมนั้น
ล่าสุดวันนี้ พระสมบัติ อายุ 40 ปี พระที่ถูกกล่าวหาได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชาคริต นิสัยรัมย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียน 2 คนที่พระใช้ให้เข้าไปนวดอวัยวะเพศให้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้าแจ้งความ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร” แต่หากมีข้อมูลหลักฐานว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดอื่น ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ขณะที่พระสมบัติยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำอนาจารเด็กตามที่ถูกกล่าวหา แค่วานให้เด็กช่วยนวดของสงวนให้เพื่อคลายเส้นแก้ปวดโรคไส้เลื่อนให้เท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย เสียใจที่โยมมากล่าวหาแบบนี้ แต่ขอยืนยันในความบริสุทธิ์และพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการว่าไม่ได้กระทำอนาจารเด็กตามที่ถูกกล่าวหา
ด้านเจ้าอาวาสวัดหนองพลวงกล่าวว่า จากการสอบถามพระสมบัติ เบื้องต้นยืนยันว่าแค่วานให้เด็กช่วยนวดคลายเส้นแก้ปวดโรคไส้เลื่อนให้เท่านั้น ไม่ได้กระทำอนาจารเด็กตามที่ถูกกล่าวหา แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางคณะผู้ปกครองสงฆ์อำเภอกระสังได้ว่ากล่าวตักเตือนพระสมบัติไปแล้วถึงความไม่เหมาะสมและให้ระมัดระวังการปฏิบัติตัวของสงฆ์ให้สำรวมมากขึ้น ส่วนเรื่องจะเข้าข่ายผิดพระธรรมวินัยของสงฆ์หรือไม่นั้น ยังอยู่ในการพิจารณาของคณะผู้ปกครองสงฆ์อีกครั้ง เพราะถึงแม้พระสมบัติจะไม่ได้ประพฤติอนาจารอันไม่สมควรแก่บรรพชิต แต่ก็ถือว่าไม่เหมาะสม
ขณะที่เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ บ้านพักเด็กและครอบครัว เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) สำนักงานพระพุทธศาสนา และนายอำเภอกระสัง ได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแจ้งสิทธิเด็กให้ผู้ปกครองรับทราบ
นางทองทิพย์ ภูสีมา นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า จากการสอบถามข้อมูลจากผู้ปกครองของเด็ก บอกว่าจากที่ลูกหลานเล่าให้ฟังคือพระให้เด็กเข้าไปช่วยนวดของสงวนให้จริงแต่เป็นการนวดเพื่อแก้ปวดไส้เลื่อน แต่ถือเป็นการเข้าข่ายกระทำอนาจาร เนื่องจากขณะนวดมีการสำเร็จความใคร่ แต่ที่ผู้ปกครองไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะกลัวถูกสังคมในหมู่บ้านต่อว่าและความไม่ปลอดภัยด้วย แต่พอเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเด็กให้ทราบ ผู้ปกครองจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ซึ่งหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการของตำรวจ อย่างไรก็ตามพบว่ายังมีเด็กที่ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำในลักษณะดังกล่าวหลายคน แต่ผู้ปกครองยังไม่กล้าเข้าแจ้งความ
