ยโสธร - ชาวบ้านร้อง ป.ป.ช.จังหวัดยโสธรถนนลาดยางพร้อมระบบไฟส่องสว่างโซลาร์เซลล์ ระยะทางกว่า 1.7 กม.โผล่กลางทุ่งนา ซ้ำเป็นทางตันไม่ได้เชื่อมต่อหมู่บ้านใด ผลาญงบไร้ประโยชน์ ด้าน ป.ป.ช.เผยสอบถามทั้งชลประทาน ทางหลวงชนบท องค์กรท้องถิ่น ไม่มีหน่วยงานใดยอมรับเป็นเจ้าของโครงการ ประกาศเดินหน้าสืบหาใครนำงบมาผลาญ
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดยโสธร หรือ ป.ป.ช. พร้อมด้วยชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่บริเวณกลางทุ่งนาพื้นที่บ้านเหมือด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เพื่อตรวจสอบถนนลาดยางเลียบคลองชลประทานพร้อมระบบไฟส่องสว่างโซลาร์เซลล์ ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าพบถนนเส้นดังกล่าวก่อสร้างอยู่กลางทุ่งนาที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับเส้นทางเข้าหมู่บ้านและยังเป็นทางตันไปสิ้นสุดอยู่กลางทุ่งนาไม่สามารถที่จะไปต่อได้
ที่สำคัญยังมีการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างข้างทางที่เป็นโซลาร์เซลล์ตลอดแนวซึ่งไม่มีความจำเป็น เนื่องจากอยู่กลางทุ่ง ชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์ อีกทั้งแสงสว่างจากไฟส่องสว่างข้างทางยังส่งผลเสียต่อการออกรวงของนาข้าวต้นข้าวไม่ออกรวงหรือออกรวงช้า
จากการตรวจสอบพบว่าถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนลาดยาง ผิวถนนกว้างประมาณ 5 เมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 1,700 เมตร และมีระบบไฟส่องสว่างข้างทางโซลาร์เซลล์ตลอดแนวจำนวนกว่า 30 ต้น ก่อสร้างตามแนวเลียบคลองส่งน้ำซึ่งอยู่กลางทุ่งนาไม่ได้เชื่อมต่อกับหมู่บ้านและยังเป็นทางตันไปต่อไม่ได้เนื่องจากเป็นพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานใดที่เข้าไปดำเนินการก่อสร้าง โดยพบว่ามีป้ายประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงชนบทติดตั้งอยู่ด้วย
การลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้มีตัวแทนจากแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดยโสธร, ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลฟ้าหยาด และผู้นำชุมชนในพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบด้วย
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดยโสธรยืนยันว่าถนนเส้นดังกล่าวทางหลวงชนบทไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง เพราะไม่ได้เป็นพื้นที่รับผิดชอบของแขวงทางหลวงชนบท และโครงการฯ ของแขวงทางหลวงชนบทจะไม่มีระบบไฟส่องสว่างข้างทางที่เป็นโซลาร์เซลล์ ส่วนที่มีป้ายประกาศผู้อำนวยการทางหลวงชนบทติดตั้งอยู่ตรวจสอบแล้วเป็นป้ายลอกเลียนแบบ ซึ่งถ้าเป็นของทางหลวงชนบทจริงๆ ต้องมีตราประทับสัญลักษณ์ของทางหลวงชนบทอยู่ด้านหลังป้ายทุกแผ่น
ขณะที่ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลฟ้าหยาด เจ้าของพื้นที่ก็ยืนยันว่า อบต.ฟ้าหยาดไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างและไม่ทราบว่าใครเป็นคนดำเนินการก่อสร้าง ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีหน่วยงานไหนเข้าไปขออนุญาตดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่แต่อย่างใด โดยทาง ป.ป.ช.ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังโครงการชลประทานจังหวัดยโสธร ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้เป็นโครงการฯ ของชลประทานแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายรัฐศาสตร์ บุญโสม ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหมือด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ได้รับการเปิดเผยว่า ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหน่วยงานไหนเป็นคนดำเนินการก่อสร้างถนนเส้นดังกล่าวเพราะไม่เคยมีหน่วยงานไหนแจ้งให้ตนทราบมาก่อน เห็นเพียงมีผู้รับเหมาเข้าไปดำเนินการก่อสร้างเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว โดยก่อสร้างอยู่ประมาณ 20-30 วันก็เสร็จ
“คาดว่าน่าจะเป็นของหน่วยงานชลประทานเนื่องจากเป็นถนนเลียบคลองส่งน้ำ แต่จริงๆ แล้วถนนเส้นนี้ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์แก่ชาวบ้านมากนักเนื่องจากอยู่กลางทุ่งและเป็นทางตัน โดยเฉพาะการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างข้างทางที่ไม่มีความจำเป็นเลยเพราะแสงไฟส่งผลกระทบต่อนาข้าวของชาวบ้านทำให้ต้นข้าวไม่ออกรวง” ผู้ใหญ่บ้านเหมือดกล่าว และว่า ในส่วนของคลองส่งน้ำของชลประทานก็ใช้งานจริงไม่ได้ เนื่องจากน้ำไม่สามารถไหลมาถึงบริเวณดังกล่าวได้เพราะสถานีสูบน้ำที่สูบน้ำจากแม่น้ำชีที่อยู่ไกลคนละตำบล จึงทำให้น้ำไม่ไหลมาถึงจุดปลายคลองส่งน้ำที่สร้างมาถึงแถวนี้
เช่นเดียวกันกับ นายทองนาค ไชยราช ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ถนนเส้นนี้ไม่เกิดประโยชน์แก่ชาวบ้านเลยและสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินโดยเปล่าประโยชน์เนื่องจากอยู่กลางทุ่งนาไม่ได้เชื่อมกับเส้นทางเข้าหมู่บ้านและเป็นทางตัน มิหนำซ้ำยังเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นในช่วงกลางคืนมักจะนัดกันไปแข่งรถจักรยานยนต์อยู่เป็นประจำ
ด้านนายอดุลย์ วันดี ผอ.ป.ป.ช.จังหวัดยโสธร กล่าวว่า เนื่องจากตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีถนนที่ก่อสร้างอยู่กลางทุ่งนาและเป็นทางตันพร้อมระบบไฟส่องสว่างโซลาร์เซลล์อยู่จำนวนหลายต้น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นถนนลาดยางอย่างดีพร้อมระบบไฟส่องสว่างโซลาร์เซลล์ที่อยู่กลางทุ่งนาและเป็นทางตัน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าหน่วยงานไหนเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและก่อสร้างด้วยงบประมาณเท่าไร
จากการสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่มีใครออกมายอมรับว่าเป็นของตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะได้สืบสวนต่อไปว่าหน่วยงานไหนเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเพื่อจะได้ตรวจสอบต่อไปว่าใช้งบประมาณแผ่นดินถูกต้องเหมาะสมหรือไม่อย่างไร