มุกดาหาร - ศาลนัดตรวจพยานฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยนัดแรกคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ ได้หายจากบ้านพักวันที่ 11 พ.ค. 2563 หลังจากนั้นไม่กี่วันมีผู้พบศพในสภาพเปลือยบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2563
วันนี้ (23 พ.ย.) เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหารคึกคักตั้งแต่เช้า มีเหล่ายูทูบเบอร์กลุ่มที่สนิทกับ นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ฝ่ายจำเลย คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ด.ญ.อรวรณ วงศ์ศรีชา มาให้กำลังใจนายไชย์พลเป็นจำนวนมาก และมีการไลฟ์สดตลอดเวลา ส่วนฝั่งโจทก์ร่วม คือนางสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ มีคนมาให้กำลังใจบางตา
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการเสียชีวิตของน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ได้หายจากบ้านพักวันที่ 11 พ.ค. 2563 และมีผู้พบศพในสภาพเปลือยบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2563 ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 อัยการจังหวัดมุกดาหารได้ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1. พรากผู้เยาว์ 2. ทำให้คนตายโดยเจตนา ปล่อยปละละเลยให้เด็กจนถึงแก่ความตาย 3. ดัดแปลงสภาพศพ และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น 1 ข้อหา คือดัดแปลงสภาพศพในคดีน้องชมพู่
ซึ่งในวันนี้ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดตรวจพยานฝ่ายโจทก์ ประกอบด้วยอัยการจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพยานทั้งหมดประมาณ 62 ปาก ส่วนฝ่ายโจทก์ร่วม ได้แก่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ มีพยานประมาณ 5 ปาก
ส่วนฝ่ายจำเลย มีนายไชย์พล อายุ 45 ปี หรือลุงพล นางสมพร หลาบโพธิ์ อายุ 43 ปี หรือป้าแต๋น พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นายรัชพล ศิริสาคร นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหารเพื่อตรวจพยานในคดีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการโทรศัพท์สอบถามของผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม บอกว่า พยานฝ่ายโจทก์ และพยานฝ่ายจำเลยมีอยู่ 4 กลุ่ม
ประกอบด้วย 1. พยานทางครอบครัวโจทก์ และพยานครอบครัวฝ่ายจำเลย 2. พยานนักวิชาการ และพยานนิติวิทยาศาสตร์ (ซินโครตรอน) 3. พยานชาวบ้านทั่วไป 4. พนักงานสอบสวน อัยการจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่เกิดเหตุ