ฉะเชิงเทรา - ไม่คึกคัก! บรรยากาศแห่องค์หลวงพ่อโสธรทางบกในงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปี 2564 เหตุมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำให้ต้องปรับลดขบวนแห่รถบุปผชาติจนไร้แรงดึงดูดนักท่องเที่ยว
วันนี้ ( 16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดพิธีแห่องค์หลวงโสธร (องค์จำลอง) ทางบกในงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปี 2564 ซึ่งชาวเมืองแปดริ้ว ได้ร่วมกันสืบทอดมานานถึง 131 ปีและในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-21 พ.ย.นี้ ว่าไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยพบว่าไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมความสวยงามของขบวนรถบุปผชาติเป็นจำนวนมากเหมือนปีก่อนๆ
โดย นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองพร้อมถวายเครื่องราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ตั้งแต่เมื่อเวลา 04.19 น.ก่อนจะบวงสรวงเจ้าพ่อหลักเมืองในเวลา 05.09 น. ต่อเนื่องด้วยพิธีบวงสรวงปู่ท้าวมหาพรหม ที่เชิงสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ
ก่อนจะประกอบพิธีบวงสรวงหลวงพ่อโสธร ด้วยไข่ไก่ต้มจำนวน 119,999 ฟอง ที่บริเวณด้านหน้ามุขพระอุโบสถหลังใหญ่และได้จัดพิธีอัญเชิญองค์หลวงพ่อโสธรขึ้นสู่ขบวนรถบุษบก ในเวลา 07.09 น. เคลื่อนไปรอบเมือง
แต่เนื่องจากในปีนี้ยังคงอยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข็มงวด จึงทำให้ จ.ฉะเชิงเทรา ปรับลดขบวนรถบุปผชาติประกอบขบวนบุษบกให้สั้นลงเหลือแค่เพียง 8 ขบวน และขบวนช้างม้ารถประดับเชิดสิงโตมังกรอีก 9 ขบวน
ทั้งยังแบ่งขบวนแห่ออกเป็น 2 รอบคือในช่วงเช้าเวลา 07.49 น. และในรอบเย็นในเวลา 16.29 น. อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนเส้นทางขบวนแห่จากเดิมที่เคยใช้ถนนมรุพงษ์เป็นเส้นทางหลักมาเป็นถนนศรีโสธรตัดใหม่ไปยังตลาดบ้านใหม่ จึงทำให้มีผู้เข้าชมค่อนข้างบางตา
สำหรับการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีของทาง จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2433 หลังเกิดโรคไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษระบาดจนทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
ชาวบ้านในพื้นที่จึงได้บนบานต่อองค์หลวงพ่อโสธร ให้ช่วยปัดเป่าโรคร้ายให้หมดสิ้นไป และได้มีการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรขึ้นในช่วงกลางเดือน 12 ยาวนานจนถึงปัจจุบันรวมทั้งจัดขบวนแห่ทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้ตั้งโต๊ะเครื่องสูงและโต๊ะหมู่บูชาถวายรำลึกถึงบุญญาภินิหาร และยังเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กิจการร้านค้าและการประกอบอาชีพอีกด้วย