พัทยา - ผ่านฉลุยงบประมาณ 200 ล้านบาท เมืองพัทยาจ้างเอกชนเช่าเหมาจัดทำระบบกล้อง CCTV ระยะผูกพัน 3 ปี ปรับเปลี่ยนกล้องชำรุด 940 ชุด หลังกล้องเก่ากว่า 2,000 ตัว ใช้งานเกิน 7 ปี
จากปัญหาการเมืองภายในสภาเมืองพัทยา ที่มีต้นตอมาจากความเห็นที่ไม่ตรงกันของสมาชิกสภาฯ จนเป็นที่มาของการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งโดยไม่แจ้งเหตุผลของ 4 สมาชิกสภาเมืองพัทยา จนทำให้สมาชิกสภาฯ ที่เหลืออีก 4 ราย ต้องหมดวาระจากเหตุผลจำนวนสมาชิกสภาฯ ไม่ถึงกึ่งหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด
กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ออกหนังสือคำสั่งประกาศของคณะกรรมการสรรหาแต่งตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น ฉบับที่ 1/2564 แต่งตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา 12 รายเป็นการชั่วคราว โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 6 แห่งประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 85/2557
แต่หลังจากนั้นไม่นาน 1 ในจำนวนสมาชิกที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ได้ขอลาออก ก่อนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จะเรียกประชุมเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิทธิพร ครุฑนาค ประธานสภาเมืองพัทยา ได้เรียกประชุมสภาเมืองพัทยาชุดใหม่นัดแรก ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยมี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ฝ่ายบริหาร และสมาชิกสภาเมืองพัทยาชุดใหม่ จำนวน 11 ราย ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติเข้าร่วม
โดย นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา ได้เสนอญัตติขอความเห็นชอบในการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณ ของสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฝ่ายสื่อสาร เพื่อดำเนินการจ้างเหมาเอกชนให้บริการเช่าระบบกล้องวงจรปิดระยะ 36 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 ถึง ก.ย.2567 เป็นระยะเวลา 3 ปี
ภายใต้งบประมาณ จำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการยุบสภาฯ และมีการแต่งตั้งสมาชิกขึ้นใหม่ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยไปก่อนหน้านี้
เป้าหมายสำคัญของโครงการดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในด้านความมั่นคงและปลอดภัย ขณะที่เมืองพัทยา ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวในเขต EEC จึงจำเป็นต้องจัดเตรียมความพร้อมในด้านเทคโนโลยี เพื่อการป้องปราบปรามที่มีประสิทธิภาพ
อีกทั้งที่ผ่านมา เมืองพัทยาประสบกับปัญหาเรื่องการทำงานของระบบกล้อง CCTV ที่มีมากกว่า 2,000 ตัว แต่ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังพบว่าเกิดการชำรุดเสียหายมากกว่า 50%
ขณะที่โครงการจ้างเหมาเอกชนเพื่อให้บริการเช่าระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่มีระยะเวลา 36 เดือน รวมทั้งปรับเปลี่ยนกล้องที่ชำรุดและหมดสภาพ จำนวน 940 ชุด ในวงเงินตลอดสัญญา จำนวน 200 ล้านบาท ครอบคลุมปีงบประมาณ 2565-2567 จะช่วยเสริมศักยภาพความเป็นเมืองดิจิทัลแห่ง EEC และยังสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว
ด้าน นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาได้จัดทำระบบกล้อง CCTV มาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน โดยมีจำนวนกล้องรวมทั้งสิ้น 2,418 จุด แต่ขณะนี้กล้องส่วนใหญ่ล้วนหมดสภาพเนื่องจากมีอายุการใช้งานเกินกว่า 7 ปี และจากการสำรวจยังพบว่ามีกล้องที่ยังใช้งานได้เพียงสัดส่วน 43.8% เท่านั้น
“หากดำเนินการซ่อมแซมหรือจัดซื้อเองอาจเกิดความล่าช้าจากการดำเนินงานตามระเบียบคุรุภัณฑ์ ซึ่งอาจจะทำให้กล้องที่มีอยู่ชำรุดเสียหายไปเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงที่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นนายกเมืองพัทยา ได้มีการว่าจ้างเอกชนให้เข้ามาดูแลและซ่อมแซมระบบกล้อง โดยมีข้อสัญญาที่จะต้องใช้งานได้เกินกว่า 95% กระทั่งมีการทักท้วงจนต้องยกเลิกไปในปี 2560”
อีกทั้งกล้องที่ใช้งานมานานผ่านระบบสายไฟเบอร์ ออปติก เมืองพัทยายังขาดบุคลากรที่มีความชำนาญในการซ่อมแซมจนทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนการที่เมืองพัทยาถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ 3 ด้าน คือ 1.เมืองแห่งการกีฬา หรือ Sport City 2.เมืองท่องเที่ยวด้านสุขภาพ และ 3.เมืองแห่งการจัดประชุมและสัมมนาระดับนานาชาติ หรือ Mice City
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมสภาเมืองพัทยาได้มีมติเห็นชอบในญัตติขอความเห็นชอบในการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณ ของสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฝ่ายสื่อสาร ตามที่มีการเสนอในครั้งแรก
