เชียงใหม่-ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ย้ำประกาศพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด15ชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อควบคุมโรค ยืนยันไม่ใช่พื้นที่อันตราย แจงยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19เพิ่มวันละ 300-400 คน เนื่องจากตรวจเชิงรุกคัดกรองผู้ป่วยเข้าสู่ระบบรักษา
วันนี้ (12 พ.ย. 64) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการคัดกรองเชิงรุกในชุมชนช้างคลาน ที่ มัสยิดช้างคลาน เชียงใหม่ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน15ชุมชนพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด หรือ Red Zoneในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง เป็นพื้นที่ที่ทีมควมคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่จะเข้าไปตรวจหาผู้ติดเชื้อด้วยการนำชุดตรวจ ATK เข้าไปตรวจในกลุ่มผู้ที่เสี่ยงสูงและแรงงานต่างด้าว หากพบผลเป็นลบ จะให้เข้ารับการฉีดวัคซีนทันที แต่หากผลเป็นบวกจะนำเข้าสู่ระบบการรักษาแบบ Community Isolation หรือ CI และให้ยาต้านทานไวรัส หากไม่มีอาการและกักตัวจนครบ 10 วันก็จะสามารถกลับบ้านได้ หากมีอาการแย่ลงก็จะนำเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 300-400 รายทุกวันนี้ มาจากการค้นหาและตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อแยกผู้ที่ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาให้ได้เร็วที่สุด
ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำว่า พื้นที่สีแดงไม่ใช่พื้นที่อันตราย แต่เป็นแนวทางในกำหนดพื้นที่ให้ง่ายต่อการควบคุมโรคของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้สามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะสามารถควบคุมโรคในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ภายใน 14 วันนี้ พร้อมกันนี้ยังได้มีการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชากรที่อาศัยและทำงานอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ให้ได้ครบทั้ง 100% ไม่ว่าจะเป็นชาวเชียงใหม่เอง หรือผู้ที่เดินทางเข้ามาทำงานในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนต่างๆ จะต้องให้ชุมชนสร้างความเข้าใจให้เข้ารับการตรวจคัดกรองและรับวัคซีนก่อนเป็นอันดับแรก ยังจะไม่มีการดำเนินการด้านกฎหมายใดๆ เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่นำเชื้อโควิด-19 ไปแพร่กระจายต่อไป