นครสวรรค์ - เหยื่อเผย “ไอ้โน” สุดโหดฆ่าทอมสาวใหญ่ คว้าอีโต้ตีลูกเลี้ยงสลบเหมือด-มัดมือมัดเท้า รอจนฟื้นก่อนบังคับบอกที่ซ่อนทรัพย์สิน-โอนเงินล้าน
ความคืบหน้ากรณี นายชโนชัย หรือโน วงแสน ก่อเหตุฆาตกรรมโหด น.ส.รัฐคณิศร จารุภัทรกิตติโชติ คาบ้านพักในพื้นที่ ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ และทำร้ายนายรุจิภาส โชติธรรม ลูกเลี้ยง ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจับมัดมือมัดเท้าทิ้งไว้ข้างบ้าน เมื่อ 9 พ.ย. 64 ที่ผ่านมานั้น
นางขนิษฐา ศีลธรรม ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.รัฐคณิศร ได้พาตัวนายรุจิภาส (บุตรชายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย) และได้รับการอนุญาตจากแพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลฯ ไปที่วัดดอนใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพให้กับ น.ส.รัฐคณิศร เมื่อเย็นวานนี้ (10 พ.ย. 64) โดยมี พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ เดินทางมาร่วมงานศพ และเข้าสอบถามอาการ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ท่ามกลางกองทัพนักข่าวมารอการสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก
นายรุจิภาสระบุว่า น.ส.รัฐคณิศร แม้จะเป็นผู้หญิงทอม แต่เปรียบเหมือนพ่อแท้ๆ ที่ตนสามารถเรียกว่าพ่อได้ วันเกิดเหตุตนได้เดินออกจากออฟฟิศที่อยู่ข้างบ้านที่เกิดเหตุเพื่อกลับไปกินข้าวกับผู้ตาย แต่เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน และตรงไปยังโซนห้องครัว ก็พบตัวนายโน คนร้ายที่อยู่ใกล้บ้าน และรู้จักกันดี เดินถือมีดอีโต้ตรงปรี่เข้ามาฟันที่หัวของตนทันที
ซึ่งตนก็พยายามต่อสู้แล้ว แต่ก็สู้แรงนายโนไม่ไหว กระทั่งถูกนายโนทำร้ายจนสลบเหมือดไปรอบหนึ่งก่อน เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีก็ตกอยู่ในสภาพที่นายโนเอาผ้าม่านหน้าต่างและเข็มขัดมามัดมือมัดเท้า จากนั้นก็ถูกบังคับให้บอกที่ซ่อนทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้าน และนายโนก็ได้ไปทั้งสร้อยคอทองคำ 12 บาท พระเลี่ยมทองอีก 8 องค์ รวมถึงเหรียญที่อยู่ในกระปุกออมสินนับพัน และบัตรเอทีเอ็มของผู้ตาย
เท่านั้นยังไม่พอ นายโนยังได้ไปแกะเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดภายในบ้าน พร้อมกับยึดโทรศัพท์มือถือของตนและผู้ตายเอาไว้ด้วย เนื่องจากภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดทั้งหมดภายในบ้านสามารถเปิดดูผ่านทางมือถือ 2 เครื่องนี้ได้
จากนั้นนายโนยังคงเหิมเกริม บีบบังคับให้ตนใช้โทรศัพของผู้ตายเข้าแอปฯ ธนาคาร ให้โอนเงินจำนวน 1 ล้านบาท เข้าอีกบัญชีธนาคารของผู้ตายที่นายโนได้ยึดบัตรเอทีเอ็มไป และรู้รหัสบัตรด้วย ซึ่งตนก็กลัวจึงยอมโอนเงินไปในรอบแรก 5 แสนบาท แต่เนื่องจากวงเงินการโอนเต็ม จึงทำให้ไม่สามารถโอนเพิ่มไปได้อีก
ซึ่งตอนนั้นก็อาศัยไหวพริบหลอกนายโนว่าโอนอีกรอบครบไป 1 ล้านแล้ว จึงทำให้นายโนยอมปล่อยให้รอดเงื้อมมือจากการโดนฆ่าปิดปาก โดยบอกตนว่าให้รออีก 2 ชั่วโมง หลังนายโนหลบหนีไปแล้ว ค่อยหาทางออกไปขอความช่วยเหลือจากคนในละแวกบ้าน
นายรุจิภาสระบุต่อว่า การที่นายโนทำแบบนี้เพราะเขามีปัญหาทางหนี้สิน และยังเป็นหนี้ผู้ตายอยู่หลายแสน ซึ่งก็ถูกผู้ตายทวงถามอยู่บ่อยๆ มันก็ไม่ผิดที่เจ้าหนี้จะทวงถามเรื่องเงินที่ถูกยืมไป ตนมองว่า เรื่องแบบนี้คนเป็นหนี้ควรต้องใช้ แต่สุดท้ายมันก็ยังสามารถประนีประนอมกันได้ เพราะผู้ตายไม่มีนิสัยโหดร้ายอะไร แถมยังเคยช่วยเหลือนายโนอยู่บ่อยๆ ด้วยซ้ำ เรื่องนี้ตนจะไม่อโหสิ และไม่ให้อภัยนายโนอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ หลังจากการให้สัมภาษณ์ พบว่าบิดาและมารดานายโนได้เดินทางมาที่วัดเพื่อไหว้เคารพศพและขอขมาผู้ตายด้วยความเสียใจ ก่อนจะเดินไปพูดคุยกับนายรุจิภาส เพื่อขมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับรับปากว่า จะใช้หนี้แทนนายโนที่ยืมไปแทนทั้งหมด