เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำผลักดันน้ำลงทะเล บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

เพขรบุรี - ปภ.เขต 4 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งผลักดันน้ำลงทะเล บรรเทาความเดือดร้อนให้ ประชาชนชาวเพชรบุรี บริเวณประตูระบายน้ำปลายคลอง D9 บ้านโตนดน้อย ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง เพื่อเร่งสูบน้ำจากคลอง D9 ลงสู่ทะเล

จากกรณีโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเพชรลงแม่น้ำเพชรบุรี มากกว่า150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเพชรบุรีตลอดสายเอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ

เมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประตูระบายน้ำปลายคลอง D9 บ้านโตนดน้อย ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นายอุดม เพชรคุต ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้ นายสุนา คนบุญ ผู้อำนวยการส่วนสนับสนุนทรัพยากรกู้ภัย นายโสภณ ทองใส่ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสาธารณภัย ปภ.เขต 4 และเจ้าหน้าที่ ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว มาติดตั้งบริเวณประตูระบายน้ำปลายคลอง D9 บ้านโตนดน้อย ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง เพื่อเร่งสูบน้ำจากคลอง D9 ลงสู่ทะเล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในตัวเมืองเพชรบุรี

จากนั้นได้นำรถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 คัน ไปติดตั้งที่หมู่ 10 ต.หนองจอก อ.ท่ายาง ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตร นาข้าวและสวนกล้วยของชาวบ้านที่ถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมขังสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตรได้รับความเสียหายประมาณ 100 ไร่ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดเพชรบุรี

นายสุนา คนบุญ ผู้อำนวยการส่วนสนับสนุนทรัพยากรกู้ภัย ปภ.เขต 4 เปิดเผยว่า วันนี้ทาง ปภ.เขต 4 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว ที่มีอัตราการสูบที่ 28,000 ลิตร/นาที จำนวน 2 เครื่อง มาสูบน้ำออกจากคลองเพื่อเร่งผลักดันน้ำในคลอง D9 ให้ไหลลงสู่ทะเลได้ไวขึ้นป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองเพชรบุรี และนำรถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยสูบน้ำระยะไกลที่สามารถสูบน้ำได้ ในอัตรา 54,000 ลิตร/นาที ไปสูบน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรสวนกล้วย และนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายลงคลอง D9

คาดว่าจังหวัดเพชรบุรีถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในพื้นที่ สถานการณ์จะเข้าสู่ในสภาวะปกติใน 2-3 วันนี้