บุรีรัมย์ - ชาวนาอำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์ทุกข์หนัก ลงทุนจ้างแรงงานนำกะละมังลอยคอเกี่ยวข้าวถูกน้ำมูลเอ่อท่วมสูงกว่า 1 เมตร ก่อนเน่าเสียหายทั้งหมดหลังระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง โอดถูกน้ำท่วมเสียหายแล้วยังมาเจอปัญหาราคาตกต่ำซ้ำเติมอีก วอนรัฐเร่งช่วยเหลือเยียวยา
วันนี้ (5 พ.ย.) ชาวนาบ้านหนองบัวแดง ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ต้องลงทุนจ้างแรงงานวันละ 300 บาทต่อคน นำกะละมังลอยคอเกี่ยวข้าวในนาที่ถูกน้ำมูลเอ่อท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลังมวลน้ำจาก จ.นครราชสีมาไหลมาสมทบลงลำน้ำมูลทำให้ระดับน้ำหนุนสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่รีบเก็บเกี่ยวช่วงนี้อาจถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมดเพราะปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้มีนาข้าวของชาวนาในหมู่บ้านหนองบัวแดงที่ปลูกใกล้กับลำน้ำมูลจมเสียหายไปแล้วกว่า 2,000 ไร่
ดังนั้นจึงยอมลงทุนว่าจ้างแรงงานคนเร่งเกี่ยวข้าวที่เหลือหนีน้ำ แต่การเกี่ยวข้าวที่จมน้ำก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะต้องยืนแช่น้ำเกี่ยวใส่กะละมังจนเต็ม จากนั้นต้องลากกะละมังเดินฝ่าน้ำที่ท่วมตามทุ่งนาไปกองรวมกันไว้บนที่สูงก่อนจะจ้างรถมานวดหรือปั่นอีกรอบ และยังต้องจ้างรถมาบรรทุกข้าวที่นวดแล้วออกไปตากตามลานหรือถนนเพื่อลดความชื้น
ชาวนาบอกว่า นอกจากจะเก็บเกี่ยวด้วยความยากลำบากแล้ว ข้าวที่เปียกน้ำแล้วนำมาตากไล่ความชื้น หากนำไปขายก็ยังไม่รู้ว่าโรงสีจะรับซื้อหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมเสี่ยงเก็บเกี่ยวขึ้นมาก่อน หากขายไม่ได้เก็บไว้บริโภคก็ยังดี จากผลกระทบดังกล่าวก็อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือเยียวยาด้วย
นายอดิศักดิ์ รอบเขตรัมย์ ชาวนาบ้านหนองบัวแดง ต.ปะเคียบ บอกว่า ครอบครัวทำนากว่า 30 ไร่ ช่วงต้นฤดูก็ประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ข้าวแคระแกร็นโตไม่เต็มที่ แต่พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็มาเจอน้ำท่วมอีก ขณะนี้นาข้าวของตนถูกน้ำท่วมจมเสียหายไปแล้วกว่า 20 ไร่ เหลืออยู่ประมาณ 10 ไร่ที่น้ำท่วมยังไม่มิดรวงข้าว จึงยอมลงทุนจ้างแรงงานคนนำกะละมังลุยน้ำเกี่ยวข้าวเพื่อหวังว่าจะได้ผลผลิตบ้าง แม้จะไม่รู้ว่าข้าวที่เกี่ยวมาแล้วโรงสีจะรับซื้อหรือไม่ หากไม่รับซื้อก็คงเก็บไว้กินเอง
“จากผลกระทบดังกล่าวอยากเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาชาวนาที่ถูกน้ำท่วมเสียหายด้วย เพราะนอกจากถูกน้ำท่วมเสียหายแล้วยังมาเจอปัญหาราคาข้าวตกต่ำซ้ำเติมอีก” นายอดิศักดิ์กล่าว