ศรีสะเกษ - แม่ค้าขนมหวานขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โชคดีถูกรางวัลที่ 1 รับเงิน 12 ล้านบาท เผยเคล็ดลับโชคดีจุดธูป 16 ดอกกลางแจ้งและนำเงิน 9 บาทไปฝังดินเพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางนำโชคลาภเข้ามาหา จะนำเงินไปใช้หนี้ให้พ่อแม่ ทำบุญ และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาลูกสาว
วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 38/1 บ้านกระทิง หมู่ 2 ต.สิ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านพากันไปแสดงความยินดีกับ น.ส.พิมพ์พิลาศ ดาวงษ์ หรือกุ้ง อายุ 34 ปี ลูกสาวของ นายประเดิม ดาวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านกระทิง หมู่ 1 ที่โชคดีถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 64 โดยมีการนำเอาด้ายมาผูกแขนของ น.ส.พิมพ์พิลาศทั้ง 2 ข้างเพื่อเป็นการแสดงความยินดีตามแบบของชาวอีสาน ซึ่ง น.ส.พิมพ์พิลาศได้นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดที่ 42 ชุดที่ 21 และชุดที่ 22 หมายเลข 045037 จำนวน 2 ใบ มาให้ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านได้ชื่นชมยินดี และได้พากันร้องตะโกนไชโย 3 ครั้งดังลั่นบ้านด้วยความดีใจที่ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านโชคดีถูกรางวัลที่ 1 ในครั้งนี้
น.ส.พิมพ์พิลาศ สาวผู้โชคดี กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะโชคดี ตนได้รับคำแนะนำจากอาสาวและดูจาก TikTok ทราบว่าหากอยากโชคดีให้จุดธูป 16 ดอกกลางแจ้งและนำเอาเงิน 9 บาทไปฝังดินไว้เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้มีโชคลาภเข้ามาหา หลังจากที่ได้ทำพิธีดังกล่าวแล้วเมื่องวดวันที่ 16 ต.ค. 64 ตนถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวตรง ได้รับเงินรางวัลประมาณ 10,000 บาท
จากนั้นช่วงประมาณวันที่ 25 ต.ค. 64 ที่ผ่านมาตนได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากยายคนหนึ่งที่นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาเดินเร่ขายที่บ้านของตน โดยตนได้ซื้อมาจำนวน 24 ใบ ส่วนการที่ได้เลือกซื้อฉบับที่ถูกรางวัลนั้นเนื่องจากตนชอบเลข 045 เพราะว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์และคิดว่าหมายเลขที่ออกรางวัลแล้วหมายเลขนั้นมักจะวนเวียนมาออกใกล้เคียงกับหมายเลขที่เคยออกรางวัลไปก่อนหน้านี้
น.ส.พิมพ์พิลาศกล่าวต่อไปว่า และในช่วงบ่ายของวันที่ 1 พ.ย. ตนได้นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ซื้อไว้มานั่งตรวจทางทีวีที่กำลังออกผลสลากกินแบ่งรัฐบาล และปรากฏว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ตนซื้อไว้ได้ถูกรางวัลที่ 1 ทำให้ดีใจมากร้องตะโกนลั่นบ้าน รีบไปบอกพ่อแม่ให้ทราบ และรีบนำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ส่วนกำหนดเวลาที่จะนำสลากฯ ไปขึ้นรางวัลที่กรุงเทพฯ นั้นจะต้องปรึกษาหารือกับพ่อแม่ญาติพี่น้องเสียก่อน สำหรับเงินรางวัลที่จะได้รับมาจำนวน 12 ล้านบาทนั้นจะนำไปใช้หนี้ให้กับพ่อแม่ที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านบาท จากนั้นจะนำไปทำบุญ ส่วนเงินที่เหลือจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกสาวของตน โดยจะยังคงประกอบอาชีพขายขนมหวานที่ตลาดเช้า อ.ขุนหาญ เช่นเดิมต่อไป