ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจโรงพักเอราวัณ จ.เลย บุกรวบหนุ่มร้านซ่อมและแต่งซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ ยึดอาวุธปืนสงครามได้มาถึง 11 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน สารภาพเป็นปืนที่รับฝากจากเพื่อนฝูงแลกกับยาบ้าไว้เสพและขาย ตำรวจเร่งสอบขยายผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (28 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อม พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย แถลงข่าวผลการตรวจยึดอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนสั้นรวม 11 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรเอราวัณได้จับกุม นายเอกชัย ตั้งสมบูรณ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 804 หมู่ที่ 7 ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ. เลย
จากการตรวจค้นสามารถยึดของกลางประกอบด้วย
1.) อาวุธปืนเล็กยาว (เอ็ม 16) จำนวน 1 กระบอก
2.) อาวุธปืนเล็กยาวอาก้า (เอเค 47) จำนวน 2 กระบอก
3.) อาวุธปืนกลมือ ขนาด 9 มม. (อูซี่) จำนวน 1 กระบอก
4.) อาวุธปืนกลมือ ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก
5.) อาวุธปืนยาว (ลูกกรด) ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก
6.) อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ลูกกรด) ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก
7.) อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .357 มม, รูเกอร์ จำนวน 1 กระบอก
8.) อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .40 มม. จำนวน 1 กระบอก
9.) อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 มม. จำนวน 1 กระบอก
10.) อาวุธปืนพกสั้น (ไทยประดิษฐ์) ขนาด . 38 มม, จำนวน 1 กระบอก
11.) กระสุนปืนขนาด .22 แม็กนัม จำนวน 9 นัด
12.) กระสุนปืนขนาด 45 จำนวน 55 นัด
13.) กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 50 นัด
14.) กระสุนปืนอาก้า ขนาด 7.62 มม. จำนวน 40 นัด
15.) กระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม. (กระสุนจริง) จำนวน 103 นัด
กระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม. (กระสุนซ้อม) จำนวน 15 นัด
17.) กระสุนปืนขนาด .40 จำนวน 43 นัด
18.) กระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 11 นัด
19.) ลำกล้องลดเสียง (สเตนเลส) จำนวน 1 ชิ้น
20.) ลำกล้องลดเสียง (สีดำ) จำนวน 1 ชิ้น
21.) ยาบ้า จำนวน 181 เม็ด (สีแดง 178 เม็ด, สีเขียว 3 เม็ด)
22.) ยาไอซ์ รวมถุงบรรจุ น้ำหนัก 4.18 กรัม
23.) เสื้อเกราะ
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ระบุว่า ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าผู้ต้องหามีอาชีพรับซ่อมรถจักรยานยนต์และรับแต่งซิ่ง มีพฤติการณ์มั่วสุมเสพยาบ้า และได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่บุคคลในครอบครัว จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้าน ปรากฏว่าพบของกลางดังกล่าวอยู่ในห้องเก็บของ สอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้นได้รับฝากเก็บรักษาจากพรรคพวกเพื่อนฝูงที่รู้จักกัน โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินและยาบ้า โดยยาบ้าผู้ต้องหารับว่ามีไว้เพื่อเสพเองและบางส่วนแบ่งขาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล หาที่มาของอาวุธปืนต่อไป จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เอราวัณ จ.เลย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืน, เครื่องกระสุนปืนและครุภัณฑ์ทางทหาร (เสื้อเกราะ) ไว้ในครอบครอง, มียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครอง”
เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทราบว่า เมื่อ พ.ศ. 2560 เคยถูกพิพากษาจำคุก 4 ปี 6 เดือน ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย และได้รับอภัยโทษ พ้นโทษออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2563