สระบุรี - อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองลงพื้นที่ตรวจสอบหาแนวทางแก้ไขปัญหาพังทลายริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก หลังกุฏิพระที่อยู่ริมแม่น้ำพังทลายลงแม่น้ำป่าสัก 4 หลัง
จากสถานการณ์น้ำท่วมด้วยฤทธิ์พายุเตี้ยนหมู่ ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งจังหวัดสระบุรี ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้หลายอำเภอที่อยู่ท้ายเขื่อนน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เมื่อปริมาณน้ำลดลง ดินริมตลิ่งที่ยังชุ่มน้ำเกิดการทรุดตัว ที่วัดบ้านกอก หมู่ 6 ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำป่าสัก ได้เกิดดินทรุดตัวลงกลางดึก ทำให้กุฏิพระที่อยู่ริมแม่น้ำพังทลายลงแม่น้ำป่าสัก 4 หลัง
วันนี้ (20 ต.ค.) นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมคณะได้ลงพื้นที่วัดบ้านกอก ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ตรวจสอบสภาพพื้นที่ความเสียหาย มีนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้การต้อนรับ และรับฟังรายงานการเกิดเหตุการณ์จากนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสระบุรี ซึ่งสรุปปัญหามาจากปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณมากจนล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่สองฝั่ง แม่น้ำป่าสักมีสภาพลาดชันคดเคี้ยว และสภาพดินเป็นดินร่วนซุย เมื่อน้ำท่วมจนดินอิ่มตัวและน้ำลดระดับอย่างรวดเร็วจึงเกิดการพังทลายได้ง่าย
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า จากการมาตรวจวันนี้จะต้องแก้ไขโดยการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ในส่วนของวัดบ้านกอก จะดำเนินการในระยะเร่งด่วนก่อนโดยจะใช้งบประมาณปี 2565 ประมาณ 9 ล้านบาท มาดำเนินการสร้างเขื่อนประมาณ 80 เมตร ส่วนระยะยาวได้ให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ประสานกับท้องถิ่น ตั้งงบประมาณเข้าแผนปี 2566 ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการทุกจังหวัดให้ดำเนินการด้วยหากมีกรณีเช่นเดียวกัน
จากนั้น นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมคณะได้ไปตรวจสภาพพื้นที่วัดหงษ์ดาราวาส หมู่ 1 ตำบลนาโฉง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี มีบ้านเรือนประชาชนพังลงแม่น้ำป่าสักทั้งหลัง รวมถึงรูปปั้นเทวดา และพญานาค ต้นยางนา และต้นจามจุรี อายุนับ 100 ปี ภายในวัดหงษ์ดาราวาส ที่อยู่ติดกัน ดินริมตลิ่งทรุดพังถล่มลงแม่น้ำป่าสักเช่นเดียวกัน