มหาสารคาม - ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน อ.กันทรวิชัยร้องสื่อเดือดร้อนหนัก น้ำชีล้นตลิ่งท่วมบ้าน-ทางสาธารณะ ทั้งยังเจอปัญหาคนเห็นแก่ตัวจ้างรถแบ็กโฮขุดดินทำคันกั้นน้ำเข้านา คาดหลังน้ำลดถนนเสียหายหนัก หาคนรับผิดชอบไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝนตกหนักทำให้น้ำชีเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนหลายอำเภอของ จ.มหาสารคาม ล่าสุดได้เกิดน้ำท่วมถนนเชื่อมหมู่บ้าน ระหว่างบ้านโนนตาล ไปบ้านหนองหญ้าม้า ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ถูกน้ำชีล้นตลิ่งท่วมยาวกว่า 1 กิโลเมตร ระดับน้ำลึกกว่า 30 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน 3 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนเข้าออกหมู่บ้านด้วยความยากลำบาก
ชาวบ้านบอกว่าก่อนน้ำหลากท่วมมีรถแบ็กโฮเข้าพื้นที่ ขุดดินบริเวณไหล่ทางทำนบกั้นน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าที่นาของตนเอง โดยการขุดดินจากถนนฝั่งหนึ่งมาทำทำนบกั้นน้ำ ซึ่งชาวบ้านมองว่าเป็นการทำที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากหากน้ำลดลงแล้วก็จะทำให้ถนนพังเสียหาย และเกรงว่าจะไร้คนรับผิดชอบ
ขณะเดียวกัน ที่บ้านโนนตาล หมู่ 9 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เป็นอีกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ หลังจากน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งท่วมถนนเชื่อมระหว่างบ้านโนนตาล หมู่ 9 ไปยังบ้านกุดเวียน หมู่ 6 และบ้านหนองหญ้าม้า หมู่ 11 โดยทั้ง 3 หมู่บ้านนี้มีประชากรรวมกันกว่า 600 คน ชาวบ้านบอกว่ามวลน้ำชีได้เอ่อล้นตลิ่งพาดผ่านถนนทางเข้าหมู่บ้านมาตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ระดับน้ำสูงสุดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ช่วงนี้รถกระบะยังสามารถขับผ่านได้ แต่หากน้ำขึ้นสูงกว่านี้จะทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ คงต้องขอเรือมาใช้เดินทางเข้าออกชั่วคราว
นายอรรถวุฒิ กรุงแสนเมือง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า น้ำได้หลากท่วมถนนเข้าหมู่บ้านวันนี้เป็นวันที่สอง ซึ่งถนนเส้นนี้ถือเป็นเส้นหลักที่ใช้เข้าออกหมู่บ้าน คาดว่าไม่กี่วันน้ำจะลดลง แต่สิ่งที่ชาวบ้านกังวลคือก่อนน้ำจะท่วม 2 วันมีบุคคลซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าของนาในบริเวณนี้ได้ว่าจ้างรถแบ็กโฮเข้ามาในพื้นที่ จากนั้นได้ขุดดินไหล่ทางฝั่งที่ไม่อยู่ติดน้ำชีมาทำเป็นคันกั้นน้ำ ซึ่งดำเนินการไปแล้วประมาณ 100 เมตร ก่อนที่ตนและชาวบ้านจะมาพบ
จากการสอบถาม ฝ่ายรถแบ็กโฮอ้างว่าชาวบ้านโนนตาลได้จัดประชุมประชาคมว่าจะทำพนังกั้นน้ำเพื่อไม่ให้น้ำหลากเข้าท่วม แต่ข้อเท็จจริงคือไม่มีการทำประชาคม ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง จึงบอกให้หยุดและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาตรวจสอบ ก่อนที่รถแบ็กโฮจะออกจากพื้นที่ไป โดยนำดินที่ขุดออกไปกลับมาโปะไว้ที่ไหล่ทางตามเดิม แต่มวลน้ำมหาศาลก็ถูกน้ำเซาะพังหมด ปัญหาคือหากน้ำลดถนนเส้นนี้จะต้องเสียหายแน่นอน และใครจะรับผิดชอบ
สำหรับรถแบ็กโฮที่เข้ามาขุดดินนั้น ชาวบ้านคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของนาในละแวกนี้ที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วมนาข้าวของตนเอง แต่มวลน้ำที่มาแล้วอย่างไรก็ท่วมหมด เหตุที่ชาวบ้านต้องร้องเรียนสื่อมวลชน เพราะว่าถนนเส้นนี้กว่าจะได้งบสร้างเป็นคอนกรีตต้องใช้เวลามากกว่า 50 ปี ถนนเพิ่งจะทำเสร็จเมื่อปี 63 ที่ผ่านมา หากถนนพังชำรุด ชาวบ้านนี่แหละที่เดือดร้อน