อุตรดิตถ์ - เผยสถานการณ์น้ำเขื่อนสิริกิติ์น้ำน้อย เหลือน้ำในอ่างไม่ถึงครึ่ง แถมเป็นน้ำใช้การได้แค่ 21.94% ขณะที่พายุลูกใหม่ที่จ่อเข้าไทยไม่ช่วย ต้องประกาศเตือนเกษตรกรท้ายเขื่อนชะลอทำนาปรัง
นายบรรจง ศรีสอาด ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์-1 (ช.อขส-1) เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ปีนี้มีปริมาณน้อย และหากติดตามพายุจากกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าไม่ส่งผลให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จึงขอให้เกษตรกรติดตามประกาศจากส่วนราชการในพื้นที่และขอความร่วมมือชะลอการทำนาปรัง ลดความเสียหายจากการเพาะปลูก
ล่าสุดเขื่อนสิริกิติ์ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2564 มีปริมาณน้ำใช้งาน 4,311.07 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 45.33 มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,461.07 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 21.94 และสามารถรับน้ำได้อีก 5,198.93 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 54.67 เฉลี่ยมีน้ำไหลเข้าวันละ 12 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 138.07 เมตร รทก. เมื่อเปรียบเทียบระดับน้ำเหนือเขื่อนปีที่ผ่านมา (11 ตุลาคม 2563) ระดับน้ำ 145.83 ต่างกันอยู่ที่ 7.77 เมตร รทก.
สำหรับการระบายน้ำ ขณะนี้เขื่อนสิริกิติ์ระบายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ เฉลี่ยวันละ 2-3 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น จึงขอฝากให้เกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัด ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำและประกาศจากโครงการชลประทานอุตรดิตถ์อย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอหรืองดทำนาปรังเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการเพาะปลูก
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของปริมาณน้ำทั้ง 4 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวม 13,083 ล้าน ลบ.ม. เทียบกับปีที่แล้ว (ปี 2563) 11,921 ล้าน ลบ.ม. ปีนี้จึงมีปริมาณน้ำมากกว่าประมาณ 1,200 ล้าน ลบ.ม.
