พระนครศรีอยุธยา - เขื่อนพระรามหก น้ำหน้าเขื่อนท้ายเขื่อนต่างกันไม่ถึงเมตร ด้านผู้อำนวยการเขื่อนพระรามหก เผยสถานการณ์จะเริ่มทรงตัวและลดลง หลังระบายน้ำบางส่วนจากแม่น้ำป่าสัก แยกเข้าคลองระพีพัฒน์ และฝนไม่ตก
วันนี้ (5 ต.ค.) สถานการณ์น้ำในปัจจุบัน กรมชลประทานมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 2,788 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อยู่ที่ 1,000 ลบ.ม./วินาที เขื่อนพระรามหก อยู่ที่ 762 ลบ.ม./วินาที ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ และคลองธรรมชาตินอกคันกั้นน้ำชลประทาน ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากแม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขังรวมทั้งสิ้น 10 อำเภอ 130 ตำบล 683 หมู่บ้าน 31,030 ครัวเรือน สำหรับในพื้นที่อำเภอท่าเรือ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 9 ตำบล 54 หมู่บ้าน 695 ครัวเรือน
ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปที่เขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมในหลายอำเภอ พบว่า ที่เขื่อนพระรามหก ตอนนี้ระดับน้ำหน้าเขื่อนและท้ายเขื่อนต่างกันประมาณ 1 เมตร ด้านทางเข้ามาการปิดป้าย ขออภัยในความไม่สะดวก มีความจำเป็นต้องใช้สถานที่ตัวเขื่อนในการบริหารจัดการน้ำในช่วงเร่งด่วน จึงของดการสัญจร และเข้าเยี่ยมชมเขื่อนพระรามหก
ภายในเขื่อนพบเจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรขนาดใหญ่ รถบรรทุก เร่งตักกำจัดวัชพืช เศษไม้ และสิ่งของที่ไหลมากับน้ำมารวมกันด่านหน้าเขื่อนเพื่อการระบายน้ำได้สะดวก พบว่า ท้ายเขื่อนบ้านเรือนพี่น้องประชาชน รวมถึงเทศบาลท่าเรือ ชุมชนริมน้ำต่างได้รับผลกระทบหนักน้ำท่วมสูง ต้องมาพักอาศัยภายในโดมวัดสะตือ บ้างไปอาศัยบ้านญาติที่ไม่ถูกน้ำท่วม
ด้าน นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลปประทานที่ 10 รักษาราชการผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ (เขื่อนพระรามหก) กล่าวว่า ตอนนี้เขื่อนพระรามหก ระบายน้ำ อยู่ที่ 762 ลบ.ม./วินาที เท่ากับเมื่อวาน ส่วนเหนือเขื่อนขึ้นไปที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เมื่อวานตอนบ่ายมีการลดการระบายน้ำจาก 1,200 ลบ.ม./วินาที เหลือ 1,000 ลบ.ม./วินาที น้ำจากการระบายในแม่น้ำป่าสักจะลดลงเรื่อยๆ มาถึงเขื่อนพระรามหก ในช่วงเย็นของวันนี้ คาดว่าสถานการณ์น้ำจะอยู่ในเกณฑ์ที่ลดลง หรือ ทรงตัว
ขณะนี้คาดว่าผลกระทบท้ายเขื่อนจะทรงตัว เพราะฝนไม่ตก แต่ว่าช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีน้ำเพิ่มขึ้นเพราะว่าฝนตกด้านเหนือเขื่อนไหลลงแม่น้ำป่าสัก ขณะนี้ระบายออกหมดแล้ว สถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอท่าเรือ มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง เพราะว่าเขื่อนพระรามหก ระบายน้ำบางส่วนจากแม่น้ำป่าสัก แยกเข้าคลองระพีพัฒน์ อยู่ที่ 180 ลบ.ม./วินาที ระบายไปในอำเภอภาชี อำเภอหนองแค จะไปลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จะแยกซ้ายออกไปลงบางปะกง อีกส่วนจะไปลงสู่ทะเลที่สมุทรปราการ
เขื่อนพระรามหก จะพิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม คือ ระบายไปคลองระพีพัฒน์ จะอยู่ในเกณฑ์ความจุของคลอง ไม่ให้ล้นคันคลองออกไป จะไหลผ่านอำเภอท่าเรือ อำเภอภาชี อำเภออุทัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา