กรมศิลปากรลงตรวจสอบวัดกรุงเก่าที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม

พระนครศรีอยุธยา - วัดท่าการ้องหวั่นคันกันน้ำพัง เร่งเสริมแนวกระสอบทรายเพิ่มรอบทิศ ด้านกรมศิลปากรที่ 3 ลงตรวจสอบวัดที่ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (4 ต.ค.) สถานการณ์น้ำหลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้รายงานตัวเลขการปล่อยระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นไปอีกในปริมาณมาก โดยล่าสุดเวลา 07.00 น.วันนี้ ปล่อยน้ำที่ 2,799 ลบ.ม./วินาที การปล่อยน้ำนี้ทำให้พื้นที่ถูกน้ำท่วมในเขต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำและลุ่มต่ำ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย และพื้นที่ถูกน้ำท่วมได้ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นไปอีก

ส่งผลวัดที่ติดริมน้ำได้รับผลกระทบหนัก เช่นที่วัดท่าการ้อง ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระพิพัฒนศาสนกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจาก พล.ม.2 รอ. จังหวัดสระบุรี จิตอาสา 904 พร้อมชาวบ้านเร่งกรอกกระสอบทรายทำแนวป้องกันน้ำท่วม สูง 1.20 เมตร ซ้อนเพิ่ม 3 ชั้น ยาวกว่า 150 เมตร รอบวัดทั้ง 4 ทิศ ติตตั้งเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง สูบน้ำที่ซึมไหลเข้ามาในพื้นที่ของวัดออกเพื่อป้องกันโบราณสถานที่อยู่ภายในวัด ไม่ให้ได้รับความเสียหายมากไปกว่านี้ เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือคันกั้นน้ำสูงระดับ 1 เมตร

นายอรรถสิทธิ์ อินต๊ะ ผอ.กลุ่มงานอนุรักษ์โบราณสถานศิลปากรที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำบริเวณวัดท่าการ้อง พร้อมเผยขณะนี้วัดท่าการ้อง ได้มีการเร่งตั้งคันกั้นน้ำสู้กับน้ำอยู่รอบทิศ เพื่อไม่ให้โบราณสถาน อุโบสถที่อยู่ภายในได้รับความเสียหาย

ขณะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีน้ำท่วมวัดที่ได้รับผลกระทบ คือ อำเภอเสนา อำเภอบางไทร อำเภอบางบาล อำเภอนครหลวง อำเภอท่าเรือ รวมแล้ว 20 กว่าวัด ส่วนความช่วยเหลือต้องรอหลังน้ำลดถึงจะสำรวจความเสียหายแล้วบูรณะในส่วนที่เสียหายใหม่ต่อไป