ศรีสะเกษ - รมช.ท่องเที่ยวฯ กัมพูชาเผยพร้อมเปิดด่านชายแดนช่องสะงำ กัมพูชาฉีดวัคซีนแล้วกว่า 90% มั่นใจเป็นประเทศปลอดภัยจากโควิด-19 และเปิดประเทศแล้วตั้งแต่ 1 ต.ค. ล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เพียง 174 ราย เผยหารือ รมว.ท่องเที่ยวฯ ไทยดันใช้ระบบ “1 วีซ่าเที่ยว 2 ประเทศ” จะนำร่องจังหวัดชายแดน
วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ 1 ใกล้กับจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ดร.ซก กรัดทะยา ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมาตรวจติดตามบรรยากาศการค้าและการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยได้มีการประชุมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณนี้จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบรรยากาศการค้าการท่องเที่ยวอยู่ในภาวะปกติ เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จึงทำให้ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ สั่งปิดด่านช่องสะงำเป็นการชั่วคราว จากนั้น ดร.ซก กรัดทะยา และคณะ ได้เดินทางไปที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ โดยได้นำคณะเดินเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาเพื่อตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของกัมพูชาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บริเวณช่องสะงำ มีประชาชนชาวกัมพูชาเปิดร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ กันอย่างคึกคัก โดยมี นางสุวรรณา วรรณศรี นายอำเภอภูสิงห์ พ.ต.ท.ปรีชา ประดิษฐ์ศิลป์ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ นายซับ เยือน ประธานช่องจอม ของกัมพูชา นำคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
ดร.ซก กรัดทะยา ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวว่า จากการที่ได้มาตรวจจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำแล้วเห็นว่ายังไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าที่ควร ซึ่งตนกำลังคิดว่าจะได้รายงานเรื่องนี้ให้สมเด็จฮุนเซนนายกรัฐมนตรีได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหากเป็นไปได้ก็ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่มีความรับผิดชอบทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ปรึกษาหารือกันเพื่อเปิดด่านจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำให้ได้โดยเร็วที่สุด เท่าที่ตนได้ตรวจสอบดูแล้วสิ่งที่จะต้องปรับปรุงไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาและของไทยมีความรับผิดชอบของเขาอยู่แล้ว ตนเห็นว่าถ้าปรึกษาหารือกันเปิดด่านได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ก็จะเป็นผลดีมาก
ตอนนี้กัมพูชาได้ประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ส่วนเรื่องการเปิดด่านชายแดนคงจะต้องหารือกับฝั่งไทย ตนคิดว่าฝั่งกัมพูชาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งการเปิดด่านช่องสะงำตนเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเนื่องจากว่าทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งจากการที่ตนได้หารือกับทางฝั่งไทยในฐานะตัวแทนของรัฐบาลกัมพูชาแล้วบรรยากาศเป็นไปด้วยดีมากในอนาคตเชื่อว่าจะมีความร่วมมือกันที่ดีกว่านี้และยั่งยืนมากขึ้น
ดร.ซก กรัดทะยา กล่าวต่อว่า ส่วนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ขณะนี้กัมพูชาได้เปิดประเทศแล้วและตนคิดว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และมีการพัฒนาไปในหลายด้านด้วยกัน ดังเช่นเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) มีผู้ติดเชื้อทั้งประเทศเพียง 174 คนเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากว่ากัมพูชาได้มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้มากกว่า 90% แล้วและบูสเตอร์โดสก็กำลังเดินหน้า กำลังมีการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุระหว่าง 6-12 ปี และ ตอนนี้กำลังมีการพูดคุยกันว่าจะมีการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 3-6 ขวบแล้ว
ทางด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมต้อนรับคณะจากประเทศกัมพูชาที่วัดไพรพัฒนา ได้ทราบจาก ดร.ซก กรัดทะยา ว่าขณะนี้ประเทศกัมพูชาได้เปิดประเทศแล้ว โดยบอกว่าได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยแล้วว่าจะใช้ระบบ “1 วีซ่าเที่ยวได้ 2 ประเทศ” โดยจะเริ่มที่จังหวัดที่ติดชายแดนก่อน ตอนนี้ที่เสียมราฐกำลังสร้างสนามบินใหม่ และได้มีการพบปะหารือผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่กรุงเทพฯ แล้ว มีแนวคิดว่าจะส่งนักท่องเที่ยวจาก จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชามาทาง จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.บุรีรัมย์ หากทำได้จะสามารถเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวได้ปีละประมาณ 30% ซึ่งขณะนี้ประชาชนของประเทศกัมพูชาฉีดวัคซีนได้ถึง 90% แล้ว พร้อมมากในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
ดร.กัลยาณีกล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนยังกังวลใจคือ จ.ศรีสะเกษยังฉีดวัคซีนได้ไม่ถึง 70% จึงยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ประเทศต่างๆ ยังไม่กล้าเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย หากเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ไม่ให้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นและเร่งฉีดวัคซีนก็จะมีโอกาสเปิดประเทศได้ในเดือนธันวาคมนี้เป็นอย่างเร็ว ซึ่งเป็นความหวังที่รอคอยสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว
“ขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาว่า ขอให้จัดแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เตรียมเปิดด่าน เปิดประเทศ โดยมีมาตรการความปลอดภัยร่วมกันเพื่อสร้างเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป” ดร.กัลยาณีกล่าว