ชัยนาท – น้ำท่วมชัยนาทขยายวงกว้างกระสอบทรายกั้นน้ำบ้านท่าทรายพัง เข้า ทะลักท่วมหมู่บ้าน ชาวบ้านเร่งขน สัตว์เลี้ยง ต้นไม้หนีน้ำ ขณะที่ชาวบ้านโพนางดำตก แม้จะคุ้นชินกับสถานการณ์ แต่บอกเหนื่อยและใช้ชีวิตลำบากทุกครั้งที่น้ำท่วม
วันนี้( 30 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังขยายวงกว้างมากขึ้น แนวกระสอบทรายกั้นน้ำ บริเวณ ต.บางหลวง อ.สรรพยา ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านท่าทราย ชาวบ้านต่างรีบขนของหนีน้ำ ขึ้นไปไว้บนที่สูง ทั้งบนบ้านและบนหลังคา นอกจากนี้ ยังต้องเร่งขนย้ายกิ่งพันธุ์ไม้ผล กว่า 300 ต้น และ ไก่ชน กว่า 60 ตัว หนีน้ำท่วมไปอยู่บนถนน
นายประดิษฐ์ เข็มเพชร อายุ 47 ปี ต้องรีบช่วยไก่ชนที่เลี้ยงไว้ จำนวนกว่า 60 ตัว ซึ่งหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนเนินดินและกอไผ่ข้างบ้าน เพื่อนำออกไปอยู่บนถนนคลองชลประทาน ก่อนที่น้ำจะท่วมสูง ลูกเจี๊ยบส่วนหนึ่งหนีน้ำไม่ทัน ถูกกระแสน้ำพัดจมตายไปหลายสิบตัว ส่วนไก่ที่เหลือก็อยู่ในอาการตกใจ ไม่ยอมให้จับตัวง่ายๆ จึงต้องนำไก่ที่จับไว้ได้แล้ว หนีน้ำออกไปก่อนส่วนที่เหลือค่อยกลับมาจับใหม่ในตอนกลางคืน หากน้ำยังท่วมไม่สูงมากนัก
ขณะที่ นางสุชาดา โพธิ์ชัย อายุ 60 ปี เร่งขนย้ายกิ่งพันธุ์ ไม้ผลที่มีจำนวนกว่า300 ต้นหนีน้ำท่วมขึ้นไปไว้บนที่สูงส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งนำออกไปเก็บไว้ริมถนนสาย 311 โดยเร่งขนย้ายตลอดทั้งวันอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ให้จมน้ำเน่าตาย เพราะลงทุนไปมากแล้ว พอน้ำลดจะได้นำไปขายสร้างรายได้และเป็นเงินทุนต่อไป
ส่วนน้ำท่วม ต.โพนางดำตก ชาวบ้านที่หนีน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่ริมถนน บอกว่าแม้จะคุ้นชินกับสถานการณ์ แต่ทุกครั้งที่เจอน้ำท่วม ยอมรับว่าเหนื่อยและใช้ชีวิตลำบาก อย่างเช่น นายสุรินทร์ เรืองรอด อายุ 67 ปี และ นางเกษม แพ่งศรี อายุ 67 สามีภรรยา ชาวบ้าน ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่หนีน้ำท่วมขึ้นมาอาศัยนอนในเต็นท์ ข้างประตูระบายน้ำบางเสวย ริมถนนสาย 311 ชัยนาท-สิงห์บุรี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เช้ามืดวันที่ 28 ก.ย.64 น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว จึงรีบขนข้าวของหนีน้ำออกมาแต่ขนออกมาได้ไม่หมด
คืนแรกที่ขึ้นมานอนริมถนน ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงไม่ได้หุงข้าวกิน ต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทน ส่วนไฟส่องสว่าง ก็อาศัยไฟจากถนนแทน เมื่อวานจึงจ้างช่างมาต่อไฟฟ้า เชื่อมออกมาจากบ้านของตนที่ห่างออกมาเกือบ 200 เมตร เพราะอาศัยอยู่จุดนี้เพียงครอบครัวเดียว จึงไม่มีหน่วยงานราชการมาช่วยต่อไฟฟ้าให้ ทั้งสองคนบอกว่า แม้จะคุ้นชินกับสถานการณ์แบบนี้ แต่ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม ยอมรับว่าเหนื่อย และลำบากมาก ทั้งเรื่องการขนของหนีน้ำ และการใช้ชีวิตอยู่ริมถนน ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าใด แต่อย่างน้อยคิดว่าน่าจะนานนับเดือน