ศรีสะเกษ - แม่ร้องสื่อ กำนันเฒ่าหื่นลวงมอมยาลูกสาววัย 15 ปีพาเข้ารีสอร์ตข่มขืนพร้อมถ่ายคลิปขู่ประจานห้ามบอกใครและข่มขู่ชำเรามานานเกือบ 2 ปี จนเหยื่อทนไม่ไหว โทร.บอกแม่บุกรีสอร์ตช่วยพาเข้าแจ้งความที่ สภ.ขุนหาญ เกือบครึ่งปีคดีไม่คืบ
วันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี พร้อมด้วย น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว ซึ่งยังเรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 3 สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เข้าร้องทุกข์ต่อผู้สื่อข่าวว่า บุตรสาวตนคือ น.ส.บี ถูก นายเขียว หรือกำนันเขียว (นามสมมติ) อายุ 57 ปี กำนันตำบลแห่งหนึ่งใน อ.ขุนหาญ ลวงไปข่มขืนกระทำชำเราที่รีสอร์ต และได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ขุนหาญเมื่อเดือน พ.ค. 64 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านไปนานเกือบครึ่งปีแล้วคดีไม่คืบหน้า
น.ส.เอเล่าว่า ตนมีสามี และลูก 2 คน เป็นชาย 1 คน อายุ 3 ขวบ และหญิง 1 คน อายุ 17 ปี เมื่อช่วงประมาณปี 2562 ขณะที่ น.ส.บีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ได้มี นายเขียว ซึ่งเป็นเครือญาติและมีบ้านอยู่ฝั่งตรงกันข้าม มีตำแหน่งเป็นกำนัน และมีภรรยาแล้ว ได้ออกอุบายชักชวน น.ส.บีไปเกี่ยวหญ้าที่สวน โดยบอกว่าจะมีน้องชายและแม่ออกไปด้วย จากนั้น น.ส.บีจึงยอมขึ้นรถไปด้วย เมื่อขับรถออกจากบ้านไปได้ไม่นาน กำนันเขียวได้หยิบขวดน้ำดื่มยื่นให้ น.ส.บี พร้อมกำชับให้ดื่มน้ำ เมื่อ น.ส.บีได้ดื่มน้ำไปแล้วได้มีความรู้สึกง่วงนอนสะลึมสะลือ จากนั้นหลับไปไม่รู้ตัว และมารู้สึกตัวอีกทีปรากฏว่านอนเปลือยกายอยู่ในรีสอร์ตพร้อมกับกำนันเขียว
กำนันเขียวได้พูดจาข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะนำคลิปที่แอบถ่ายไว้ขณะร่วมเพศไปประจานให้อับอาย ซึ่ง น.ส.บีรู้สึกช็อกร้องไห้และหวาดกลัวพูดอะไรไม่ออก โดยหลังจากนั้นมากำนันเขียวก็ใช้คำขู่เดิมเพื่อขอร่วมหลับนอนกับ น.ส.บีมานานเกือบ 2 ปี ด้วยความเป็นแม่ตนรู้สึกถึงความผิดปกติของลูก เพราะค่อนข้างซึม เงียบเหงา พูดน้อยและไม่ค่อยร่าเริง จึงพยายามเค้นถามแต่ น.ส.บีก็บอกว่าไม่มีอะไร
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ น.ส.บีกำลังฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.ขุนหาญ กำนันเขียวได้โทรศัพท์มาชักชวนไปรีสอร์ต โดยนัดพบกันเวลา 13.00 น. เมื่อถึงเวลากำนันเขียวได้ขับรถยนต์มาจอดรับแล้วพาไปเข้ารีสอร์ตในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้กระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ในขณะนั้น น.ส.บีทนพฤติกรรมของนายเขียวไม่ไหวและอยากหลุดพ้นออกจากวงจรอุบาทว์นี้ เมื่อรู้พิกัดที่ตั้งรีสอร์ตแล้ว น.ส.บีจึงได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ตนไปช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงที่รีสอร์ตดังกล่าวถึงกับช็อกเมื่อพบว่ากำนันเขียวอยู่กับลูกสาวตนในห้องสองต่อสอง ไม่คาดคิดว่าคนใกล้ตัวและยังเป็นเครือญาติกันจะทำร้ายกันได้ลงคอขนาดนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งหลาน เหลน โดย กำนันเขียวกล่าวแต่เพียงว่าขอโทษ พร้อมหันไปต่อว่า น.ส.บีว่า “ไม่น่าทำกับตาอย่างนี้ โทร.ไปบอกแม่ทำไม”
จากนั้นตนได้พาลูกสาวไปตรวจภายในที่ รพ.ขุนหาญเพื่อเป็นหลักฐาน และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายเขียวจนถึงที่สุด แต่แล้วเวลาก็ผ่านเลยไปจนเกือบครึ่งปีแล้วเรื่องดังกล่าวยังไม่คืบหน้า ประกอบกับกำนันเขียวยังมีพฤติกรรมเรื่องเพศบ่อยครั้ง และมีเรื่องลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนเพื่อเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือต่อไป
