สุรินทร์ – ไม่รอด ตร.บุกชาร์จจับโจรอ้วนก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์มือเปล่าร้านเซเว่นฯ ท่าตูม จ.สุรินทร์ ขณะนั่งเสพยาบ้าอยู่ในบ้านพัก เจรจา 5 ชม.ไม่เป็นผล ต่อสู้ขัดขืนหนักต้องใช้ง่ามเหล็กและปืนไฟฟ้าสกัดจึงควบคุมตัวได้ พบประวัติเพิ่งก่อเหตุชิงมือถือ พ่อบอกลูกทำผิดต้องยอมรับผิด
วันนี้ ( 29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคนร้ายรูปร่างอ้วน สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า พร้อมสวมหมวก แต่งกายวสวมรองเท้าแตะ เสื้อยืดคอกลมมีข้อความ “กูติดยังวะ” บุกจี้ชิงทรัพย์ ร้านสะดวกชื้อเซเว่นอีเลฟ สาขา ริมแม่น้ำมูล อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ขู่พนักงาน เปิดลิ้นชักหยิบเอาเงินสด 2,267 บาท แล้วเดินออกจากร้านอย่างใจเย็น ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีม่วง-ขาว หลบหนีไป เกิดเหตุเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตูม ได้ทำการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งภายในร้านเซเว่นฯ ที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลตำบลท่าตูม และสอบถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตูม ที่เคยพบเห็นชายเหมือนคนร้ายในภาพจากกล้องวงจรปิด และยืนยันชายคนที่ก่อเหตุ คือ นายสมรักษ์ ลามกนก อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 บ้านโนนแดง ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
โดย พ.ต.ท.สนิท แสงสุวรรณ์ รองผกก.สืบสวน สภ.ท่าตูมพ.ต.ท.พรชัย คงชนะชัยสกุล สวป.ท่าตูม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรสุรินทร์ เดินทางไปยังบ้านพัก นายสมรักษ์ ลามกนก อายุ 25 ปี ตามที่อยู่ดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านพ่อของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจพบ นายสมรักษ์ กำลังนั่งเสพยาบ้าภายในบ้านพัก และทำการต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่โดยขว้างเศษก้อนหิน ใส่เจ้าหน้าที่และ ถือมีดจะทำร้าย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเจรจาให้มอบตัวกว่า 5 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล คนร้ายยังต่อสู่ขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงใช้เหล็กง่ามบุกเข้าชาร์จจับกุมนายสมรักษ์ แต่คนร้ายต่อสู้ขัดขืนและเป็นคนร่างใหญ่มีกำลังมากต้องไช้ปืนไฟฟ้ายิงสกัดนายสมรักษ์ จึงสมารถควบคุมคนร้ายไว้ได้
จากนั้นได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะที่ โรงพยาบาลท่าตูม ผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา เสพยาติดให้โทษประเภทหนึ่ง (เมทแอมเฟตามีน) และข้อหาชิงทรัพย์ ซึ่งพนักสอบสวนจะได้สอบปากคำผู้และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากตรวจสอบประวัติ พบว่า นายสมรักษ์ ลามกนก เคยก่อนเหตุชิงทรัพย์ร้านโทรศัพท์มือถือมาแล้วครั้งหนึ่ง ในตลาดอำเภอท่าตูม เมื่อไม่นานมานี้ ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีกในครั้งนี้ ซึ่งผู้ต้องหา มีอาการทางประสาท เพราะเสพสารติด มาเป็นเวลานาน
ผู้สื่อข่าวสอบถามพ่อของผู้ต้องหาซึ่งไม่ยอมให้สัมภาษณ์กล่าวแต่เพียงว่า ลูกทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิด และขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก เพราะไม่คาดคิดว่าคนร้ายผู้ก่อเหตุจะเป็นลูกหลานในหมู่บ้านตัวเอง