น่าน - ตามพิสูจน์ “สะปัน-บ่อเกลือ เมืองน่าน”..เดินหน้ารับนักท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจสู้โควิด ชูชุมชนลูกเจ้าพ่อพญาตึ๋น กลางหุบเขาใต้หมอกเมฆลอยเคล้ายอดดอย ห้วงยามย่างเข้าปลายฝนก่อนเข้าต้นหนาว “แหล่งโอโซนชั้นดี ณ น่าน”
ห้วงยามย่างเข้าปลายฝนก่อนเข้าหน้าหนาว..ประกอบกับจังหวะที่การระบาดโควิด-19 ที่พอจะอ่อนแรงลงให้ได้หายใจหายคอกันได้บ้างนั้น หลายพื้นที่เริ่มเตรียมพร้อมรองรับการเปิดพื้นที่ชุมชน-เปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว เพื่อหวังจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปได้บ้าง ภายใต้มาตรการป้องกันไวรัสเข้มข้น
รวมถึง..บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน หมู่บ้านเล็กๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมยอดฮิตติดเทรนด์ที่นักท่องเที่ยวอยากจะไปเยือนสักครา
ซึ่งตามประวัติที่มีการรวบรวมไว้พบว่า “หมู่บ้านสะปัน” ถูกเรียกขานตามชื่อของลำน้ำสะปันที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ก่อตั้งมานานหลายร้อยปีผ่านมาแล้ว มี “เจ้าพ่อพญาตึ๋น” เป็นผู้นำในการอพยพมาตั้งรกรากเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางป่าเขาที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ประชากรของหมู่บ้านก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามสัดส่วน
กระทั่งมีการก่อตั้งหมู่บ้านอย่างเป็นทางการในปี 2520 โดยแบ่งการปกครองย่อย ในช่วงปี 2531 ยังเป็นกิ่งอำเภอบ่อเกลือ บ้านสะปันอยู่เขตปกครองหมู่ที่ 8 ต.บ่อเกลือเหนือ ต่อมาปี 2538 มีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครองจากกิ่งอำเภอขยับเป็น อ.บ่อเกลือ หมู่บ้านสะปัน กลายเป็นหมู่ที่ 1 ต.ดงพญา ปัจจุบัน บ้านสะปันมีหย่อมบ้านหรือป๊อกบ้าน หรือหมู่บ้านติดกันที่เป็นสาขาของหมู่บ้านที่แยกไปตั้งชื่อ เช่น บ้านเด่น บ้านนาปู บ้านนาโป่ง บ้านฐาน และบ้านห้วยข่า เป็นต้น
ด้วยบ้านสะปันตั้งอยู่กลางหุบมีภูเขาล้อมรอบ ลำธารไหลผ่านตลอดปี คือ ลำน้ำหว้า และลำน้ำสะปัน (ชื่อเดิมสบปัน ก่อนจะกลายมาเป็นสะปันในวันนี้) จึงทำให้สภาพอากาศเย็น หน้าร้อนก็ไม่ร้อนอุณหภูมิไม่เกิน 25-30 องศาฯ หน้าฝนก็จะเย็นสบาย มีหมอกฝนปกคลุมเกือบทั้งวัน ภูมิทัศน์เขียวขจีจากนาข้าว และป่าไม้บนภูเขาที่ล้อมรอบ หน้าหนาวก็หนาวเย็นสบายเมฆหมอกหนาวปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้าน
ที่นี่นอกจากบรรยากาศธรรมชาติที่สงบสวยงามแล้ว ผู้คนยังคงวิถีดั้งเดิมในแบบฉบับชาวเหนือหรือชาวล้านนา ผสมกับวิถีชีวิตของชนเผ่าต่างๆ ที่รายล้อมในหลายหมู่บ้าน ตลอดระยะเวลานับตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านสะปันไม่เคยเกิดคดีอาชญากรรมร้ายแรงแม้แต่คดีเดียว
และที่สำคัญ สะปันถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งโอโซนชั้นดี กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน
ช่วงที่เหมาะสุด สำหรับเที่ยวสะปัน-แหล่งโอโซนชั้นดี ณ น่าน คือเดือนสิงหาคม-กันยายน-ตุลาคม 3 เดือนนี้สะปันจะอยู่กลางเมฆหมอก-สายฝนที่โปรยปรายมาเป็นระยะๆ หอมกลิ่นอายดิน ทิวทัศน์ที่เขียวขจีจากทุ่งนาข้าว หมอกฝน-ปุยเมฆลอยเคล้ายอดดอย และสายน้ำที่ไหลเอื่อยเรื่อยรินสไตล์ธรรมชาติบำบัด
เมื่อเลยไปถึงต้นเดือนตุลาคม นาข้าวสีเขียวก็จะกลายเป็นนาข้าวสีทองเหลืองอร่ามทั่วท้องทุ่ง แต่สภาพอากาศไม่มีแตกต่างจากเดิม มีเพียงมุมมองความสวยงามของท้องทุ่งนาจากนาข้าวสีเขียวกลายเป็นสีเหลืองทอง ซึ่งระยะเวลาเก็บเกี่ยวก็จะอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายน จนถึงต้นตุลาคม
พอเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน อากาศหนาวมาเยือนเต็มตัว บรรยากาศก็จะดูสวยงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ก็แทบจะไม่แตกต่างมากนัก เพราะที่นี่ไม่มีคำว่าร้อน เพราะหมู่บ้านสะปันล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่มีป่าไม้เขียวขจีตลอดปี
ปัจจุบัน “สะปัน” มีสถานประกอบการที่พักโรงแรมรีสอร์ตมีให้เลือกมากมาย ราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ และต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น เพราะห้องพักช่วงนี้มีบริการนักท่องเที่ยวเพียง 200-300 ห้องเท่านั้น ที่สำคัญจะรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มขึ้นไปด้วย
การเดินทางไม่ยากอย่างที่คิด บ้านสะปัน อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ่อเกลือเพียง 8 กิโลเมตร อยู่ห่างจากตัวจังหวัดน่านประมาณ 90 กิโลเมตร เส้นทางรถยนต์น่าน-ท่าวังผา-ปัว-บ่อเกลือ รถทุกชนิดสามารถไปถึงได้
