คุมตัวโจรบุกเดี่ยวควงอีโต้ทำแผนรับสารภาพจี้ร้านสะดวกซื้อ-ร้านทอง

กาฬสินธุ์ - ตำรวจ สภ.นาคูคุมตัวหนุ่มวัย 27 ปีทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุควงอีโต้บุกเดี่ยวจี้ร้านสะดวกซื้อกลางดึก และก่อเหตุจี้ชิงทองร้านทองในช่วงเช้าซ้ำอีก สุดท้ายไม่รอด อ้างต้องการเงินไปบริจาคให้คนจน ด้านตำรวจไม่เชื่อ พบมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องยาเสพติด

ความคืบหน้า นายเดชณรงค์ วรรณสังข์ อายุ 27 ปี ชาว ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ใช้เสื้อปิดบังใบหน้าใช้อาวุธมีดอีโต้บุกเดี่ยวเข้าไปจี้ชิงทองในร้านทองเยาวราช (ตรามังกร 2) ตั้งอยู่ในตัวอำเภอนาคู จ.กาฬสินธุ์ ก่อนถูกตำรวจ สภ.นาคูบุกเข้าชาร์จจับตัวได้หน้าร้านทองดังกล่าวพร้อมของกลาง จากการสอบสวนพบว่าก่อนก่อเหตุชิงทอง นายเดชณรงค์ยังก่อเหตุจี้ชิงเงินภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาอำเภอนาคู เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ก่อนจะมาก่อเหตุซ้ำอีกในช่วงเช้า


ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสายตรวจคุมตัว นายเดชณรงค์ วรรณสังข์ ผู้ต้องหา ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาอำเภอนาคู ซึ่งเป็นจุดที่นายเดชณรงค์ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อช่วงเวลา 24.000 น.วันที่ 18ก.ย. ใช้เสื้อคลุมศีรษะปิดบังใบหน้าเดินเข้าไปใช้มีดอีโต้ขู่ ตะโกน “หยุด นี่คือการปล้น” บังคับพนักงานนำเงินมาให้ 3,000 บาท แล้วหลบหนีไปที่บ้านพักใน ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ นำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ช่วงเช้าได้ออกไปก่อเหตุชิงทองอีก

จุดที่สองบริเวณร้านทองเยาวราช (ตรามังกร 2) เลขที่ 244 ม.2 ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ นายเดชณรงค์ใช้เสื้อคลุมศีรษะ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอด เดินเข้าไปในร้านทอง ใช้มีดอีโต้ขู่ฟันพนักงาน ตะโกนว่า “หยุด นี่คือการปล้น” จนทุกคนตกใจกลัววิ่งเข้าไปหลบด้านใน คนร้ายจึงกวาดแหวนใส่ในย่าม โดยกล้องวงจรปิดจับภาพพฤติกรรมขณะก่อเหตุได้ชัดเจน ระหว่างนั้นพลเมืองดีแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่มาถึงทันเหตุการณ์พอดี คนร้ายเห็นตำรวจก็พยายามหลบ วิ่งออกมา จึงถูกบุกเข้าชาร์จจับตัวได้บริเวณหน้าร้านทอง พร้อมของกลางอาวุธมีดอีโต้ แหวนทองหลายรายการ และยาบ้าอยู่ในย่ามของผู้ก่อเหตุอีก 19 เม็ด

เบื้องต้นนายเดชณรงค์ ซึ่งยังอยู่ในลักษณะอาการของคนเมายาพูดจาวกวน แต่ยอมรับว่าได้ก่อเหตุใช้มีดชิงเงินในร้านสะดวกซื้อและชิงทองจริง อ้างว่าต้องการนำเงินไปบริจาคให้คนพิการ และคนยากจน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเพราะมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด คาดว่าต้องการเงินไปซื้อยาบ้าเสพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปคุมขังรอการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง




ด้านนายชาญชิต ทรัพย์กุลมงคล อายุ 58 ปี เจ้าของร้านทอง กล่าวว่า คนร้ายได้กวาดแหวนทองในถาด ซึ่งเป็นแหวนทองน้ำหนัก 2 สลึง 66 วง และแหวนครึ่งสลึงอีก 41 วง มูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท ใส่ในย่าม กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพอดี และสามารถจับกุมตัวได้ ต้องขอชื่นชมและขอบคุณตำรวจที่มาถึงที่เกิดเหตุรวดเร็ว เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดมาก่อน ทางร้านมีระบบป้องกัน และมีการซักซ้อมแผนกับตำรวจเป็นประจำ วันเกิดเหตุเป็นช่วงเปิดร้าน พนักงานกำลังเช็ดกระจก คนร้ายอาศัยจังหวะนี้เข้ามาก่อเหตุดังกล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากนายเดชณรงค์ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงเงินร้านเซเว่นฯ ช่วงกลางดึกแล้ว ชุดสืบสวน สภ.นาคูอยู่ระหว่างติดตามตัว สืบทราบว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ามาที่ตัวอำเภอนาคู เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตาม ก็พบว่าคนร้ายเข้ามาที่ร้านทอง และใช้อาวุธมีดเล่มเดิมก่อเหตุจี้ชิงทอง ตำรวจจึงเข้าจับกุมทันที ส่วนมูลเหตุจูงใจนั้นยังอยู่ระหว่างสอบสวนอย่างละเอียด เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังให้การค่อนข้างวกวน




จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายเดชณรงค์มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีประวัติคดีลักทรัพย์ชาวบ้าน แต่มีการยอมความกันเนื่องจากเป็นญาติ จากการตรวจค้นร่างกายยังพบยาบ้าอีก 19 เม็ด ตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาคู ดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธหรือพรางตัวเพื่อไม่ให้เห็นใบหน้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม,

ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย