ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชป่วน! เอาไม่อยู่คลัสเตอร์ตลาดสุรนารีแพร่เชื้อขยายเป็น 4 วง ลามกระจาย 8 อำเภอ พบติดโควิดแล้ว 260 ราย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและ ปชช.เสี่ยงติดเชื้อจำนวนมาก ล่าสุดผู้ว่าฯ สั่งปิดเพิ่มยาวถึง 26 ก.ย. ขณะทั้งจังหวัดฯ พบผู้ป่วยรายใหม่ 226 ราย ตายวันเดียว 4 ศพ
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.นครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา โดยมี นพ.วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาเข้าร่วมประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระบบ ZOOM เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่เมษายน ของ จ.นครราชสีมา
นพ.วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ของ จ.นครราชสีมาว่า ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่จำนวน 226 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัด 184 ราย ติดเชื้อจากนอกจังหวัด 42 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 22,406 ราย รักษาหาย 19,664 ราย ยังรักษาอยู่ 2,583 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 4 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 159 ราย
ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 226 ราย แยกเป็นรายพื้นที่อำเภอได้ดังนี้ อ.เมือง 107 ราย, อ.ปากช่อง 25 ราย, อ.บัวใหญ่ 15 ราย, อ.พิมาย 10 ราย, อ.สีคิ้ว 10 ราย, อ.สูงเนิน 8 ราย, อ.โนนสูง 7 ราย, อ.สีดา 5 ราย, อ.แก้งสนามนาง 4 ราย, อ.ขามทะเลสอ 4 ราย, อ.ปักธงชัย 4 ราย, อ.วังน้ำเขียว 4 ราย, อ.ขามสะแกแสง 3 ราย, อ.ชุมพวง 3 ราย, อ.ประทาย 3 ราย, อ.ครบุรี 2 ราย, อ.โชคชัย 2 ราย, อ.ด่านขุนทด 2 ราย, อ.ลำทะเมนชัย 2 ราย, อ.หนองบุญมาก 2 ราย, อ.คง 1 ราย, อ.จักราช 1 ราย, อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย และ อ.ห้วยแถลง 1 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4 ราย ประกอบด้วย 1. ผู้เสียชีวิตรายที่ 156 ของจังหวัดนครราชสีมา เป็นชายอายุ 52 ปี ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี สาเหตุการติดเชื้อ มีอาชีพขับรถส่งของพื้นที่ต่างจังหวัด เดินทางไป อ.แถลง จ.ระยอง เสียชีวิตที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา วันที่ 14 ก.ย. 64 เวลา 17.25 น., 2. ผู้เสียชีวิตรายที่ 157 ของจังหวัดฯ เป็นชาย อายุ 61 ปี ต.ตาจั่น อ.คง สาเหตุการติดเชื้อ ตรวจพบเชื้อในโรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี วันที่ 30 ส.ค. 64 เดินทางกลับมารักษาที่ รพ.คง เสียชีวิตที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา วันที่ 14 ก.ย. เวลา 16.11 น.
3. ผู้เสียชีวิตรายที่ 158 ของจังหวัดฯ เป็นชาย อายุ 40 ปี ต.พะเนา อ.เมืองนครราชสีมา สาเหตุการติดเชื้อ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ปัจจัยเสี่ยงน้ำหนักตัว 95 กิโลกรัม ความสูง 165 เซนติเมตร เสียชีวิตที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา วันที่ 14 ก.ย. 64 เวลา 17.50 น. และ 4. ผู้เสียชีวิตรายที่ 159 ของจังหวัดฯ เป็นชาย อายุ 46 ปี ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี สาเหตุการติดเชื้อ มีประวัติทำงานขับรถที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับส่งผลไม้เดินทางข้ามจังหวัด เสียชีวิตที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา วันที่ 14 ก.ย. 64 เวลา 20.30 น.
ส่วนการระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือเป็นคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมีจำนวน 10 คลัสเตอร์ ในจำนวนนี้เป็นคลัสเตอร์ใหม่ 3 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย
1. คลัสเตอร์โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย พบติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 4 ราย รวมติดเชื้อสะสม 986 ราย, 2. คลัสเตอร์โรงงานแปรรูปไก่คาร์กิลล์ มีทส์ ต.กระโทก อ.โชคชัย พบติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย รวมติดเชื้อสะสม 1,356 ราย, 3. คลัสเตอร์ครอบครัว ต.หินโคน อ.จักราช พบติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย รวมติดเชื้อสะสม 10 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 30 ราย, 4. คลัสเตอร์ร้านก๋วยเตี๋ยว และเทสโก้-โลตัส เอ็กซ์เพรส อ.บัวใหญ่ พบติดเชื้อรายใหม่ 12 ราย รวมติดเชื้อสะสม 26 ราย
5. คลัสเตอร์ห้างฯ แม็คโคร อ.ปากช่อง พบติดเชื้อใหม่เป็นพนักงานแผนกตู้แช่ รวมติดเชื้อสะสม 19 ราย, 6. คลัสเตอร์เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง ติดเชื้อรวม 8 ราย, 7. คลัสเตอร์ฟาร์มแหลมทอง ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง ติดเชื้อรวม 9 ราย, 8. คลัสเตอร์โรงงานไก่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา พบผู้ป่วยเป็นแรงงานต่างด้าวไปซื้อผักผลไม้ตลาดสุรนารี จึงนำลูกจ้างรวม 50 คน เป็นแรงงานต่างด้าว 42 คน และคนไทย 8 คน มาตรวจ ATK พบเป็นผลบวก 11 ราย, 9. คลัสเตอร์ตลาดสดพิมายเมืองใหม่ พบติดเชื้อใหม่ 5 ราย รวมติดเชื้อสะสม 108 ราย
และ 10. คลัสเตอร์ตลาดสุรนารี หรือชื่อเดิม ตลาดสุรนคร ตลาดค้าส่งผักผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบการแพร่ระบาดขยายเป็น 4 วง ลุกลามไปพื้นที่อำเภอต่างๆ อีกรวม 8 อำเภอ รวมพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 260 ราย แบ่งเป็นผู้ค้าขายในตลาด 106 ราย และผู้สัมผัสกับกลุ่มผู้ค้าขายในตลาด 154 ราย แยกเป็นวงที่ 1 จำนวน 106 ราย วงที่ 2 จำนวน 41 ราย วงที่ 3 จำนวน 62 ราย วงที่ 4 จำนวน 51 ราย และกระจายไปในพื้นที่ 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองนครราชสีมา, อ.พิมาย, อ.สีคิ้ว, อ.ขามสะแกแสง, อ.ด่านขุนทด, อ.ขามทะเลสอ, อ.พระทองคำ และ อ.วังน้ำเขียว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมามีมติให้ปิดตลาดสุรนารีต่ออีกรวมเป็น 14 วัน จากเดิมสั่งปิดวันที่ 12-15 ก.ย. 64 โดยให้ปิดดำเนินการเพิ่มอีก 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-26 ก.ย. 64 เนื่องจากพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโรคอีกเป็นจำนวนมาก
ด้าน นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาทั้งสิ้น 270 ราย ข้อน่ากังวลคือเป็นเด็กและเยาวชน 28 ราย ซึ่งการที่ภาครัฐกำลังจะพิจารณาให้เปิดการเรียนการสอนปกติเกรงอาจจะเกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา
นอกจากนี้ มีผู้ป่วยสีเหลืองซึ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 160 ราย คิดเป็น 66% และมีโอกาสเป็นผู้ป่วยสีส้มต้องใช้เครื่องออกซิเจนแรงดันสูงรวมทั้งมีการครองเตียงนานขึ้น ล่าสุดได้เตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามจำนวน 100 เตียง ซึ่งใช้พื้นที่อาคารชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา ที่เดิม หลังปิดทำความสะอาดเป็นเวลา 3 วันที่ผ่านมา เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากคลัสเตอร์ตลาดสุรนารี
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางจังหวัดนครราชสีมาได้ออกคำสั่งจังหวัดนครราชสีมาที่ 9271/2564 เรื่อง ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดต่ออันตราย ลงวันที่ 15 ก.ย. 2564 ลงนามโดย นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า ให้ปิดตลาดสุรนารี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2564 เวลา 14.00 น. ถึงวันที่ 26 ก.ย. 2564 เวลา 14.00 น. ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าหรือออกพื้นที่ตลาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
