ชัยนาท - ชลประทานแจ้งเตือน ฉบับที่ 3 น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูง ปรับระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เตือนประชาชนท้ายเขื่อนระวังน้ำขึ้นสูงอีก 75 ซม.
วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่ อ.เมืองชัยนาท น้ำสูงขึ้น 60 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.50 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) กรมชลประทานได้ผันน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก รวมกัน 498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 105 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ปริมาณ 1,321 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 122 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำสูงขึ้น 44 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 12.08 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง)
กรมชลประทานได้แจ้งเตือนระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉบับที่ 3 หลังมีฝนตกหนักทางตอนบน คาดจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านที่จังหวัดนครสวรรค์ในเกณฑ์ 1,800-1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จำเป็นต้องปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง พร้อมกับได้ประสานจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนแล้ว
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ส่งผลให้มีน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำสายหลักต่างๆ ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ประมาณ 1,800-1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีการตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งรวม 393 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เนื่องจากมีปริมาณน้ำท่าตามธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องปรับการระบายน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน โดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.75 เมตร ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย.นี้ กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพของพื้นที่ โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประสานแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำแล้ว จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา