สระแก้ว - ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เผยเหตุจูงใจคนร้ายขโมยปืนหลวง 65 กระบอก เกิดจากปัญหาการเงิน เผยขณะนี้ยังไม่ได้รับความร่วมมือเปิดชื่อคนซื้อปืน เชื่อเป็นคนมีชื่อเสียง มั่นใจไม่นานได้รู้ตัวผู้ร่วมขบวนการ
จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว ขโมยปืนลูกซอง และปืนพกสั้นจากตู้คลังอาวุธบนชั้น 2 อาคารที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว ไปขายตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รวม 21 ครั้ง โดยมีอาวุธปืนที่ถูกขโมยไปทั้งสิ้น 65 กระบอก
และเมื่อวานนี้ ปลัดอำเภอเมืองสระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ได้ขยายผลจนสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้เบื้องต้น 3 ราย โดยพบว่าเป็น อส.ประจำที่ว่าการอำเภอเมือง 1 ราย อส.ทำที่งานอยู่ภายในบ้านพักข้าราชการ ศาลากลางจังหวัด 1 ราย และผู้ที่รับซื้อปืนอีก 1 ราย และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 1 รายนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อสอบสวน นายวีระพันธ์ นาคพิทักษ์ หรือตั้ม อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว หัวหน้าทีมขโมยปืนราชการ จนทราบว่าอาวุธปืนที่ถูกขโมยไปจะถูกนำไปขายต่อให้คนรู้จักและผู้ที่ชื่นชอบอาวุธปืน
โดยปืนลูกซองจะขายในราคากระบอกละ 2,000-3,000 บาท ส่วนปืนสั้นขายกระบอกละ 10,000 บาท
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ยังเปิดเผยอีกว่า หลังจากที่นายอำเภอเมืองสระแก้ว ได้ตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนของทางราชการได้ถูกขโมยใหม่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว เร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 ราย และขณะนี้สามารถติดตามอาวุธปืนกลับคืนมาได้แล้ว จำนวน 8 กระบอก
"แรงจูงใจในการก่อเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งในส่วนการติดตามว่าปืนที่ถูกขโมยไปถูกนำไปขายให้ใครบ้างนั้นขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ให้ความร่วมมือ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้การตรวจสอบจากโทรศัพท์ ซึ่งบางรายจำนนต่อหลักฐานและเมื่อได้ข้อมูลแล้วจะเข้าจับกุมทันที"
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เผยว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้ต้องหายังไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เชื่อว่าบุคคลที่รับซื้อปืนน่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงหรือมีตำแหน่งในพื้นที่ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะได้ทำการเก็บข้อมูลการสื่อสารย้อนหลังของผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อจะตรวจสอบการเชื่อมโยงไปสู่ผู้ที่รับซื้อปืนต่อไป โดยคาดว่าน่าจะได้ตัวผู้ซื้อปืนอีกจำนวนมาก
ขณะที่ พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่านาวิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรสระแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมชุดสอบสวน ระบุว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และยังไม่ให้ข้อมูลว่าได้นำอาวุธปืนไปขายให้ใครบ้าง
จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ที่รับซื้อปืนว่า ปืนที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้นำไปขายเกิดจากการกระทำความผิด และหากประสงค์จะนำของกลางส่งคืนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหารายล่าสุดซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเช้าวันนี้คือ นายนิพนธ์ ศรีแจ่ม อายุ 40 ปี พร้อมปืนของกลาง 1 กระบอก พบว่าในอดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ซึ่งขณะนี้ถูกนำตัวฝากขังที่ห้องกักขัง สภ.เมืองสระแก้ว
และจากการสอบสวนทราบว่า นายนิพนธ์ ได้นำปืนอีก 1 กระบอก ไปขายต่อให้เพื่อน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็น 1 ในทีมสอบสวนว่าขณะนี้ นายวีระพันธ์ นาคพิทักษ์ หรือตั้ม หัวหน้าทีมขโมยปืนได้ยอมเปิดปากแล้วว่าได้นำปืนจำนวน 20 กระบอกไปขายให้เพื่อนชื่อ “ยุทธ” ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวเช่นกัน