พิจิตร - คืบหน้าอดีตผู้คุมเรือนจำพิจิตรก่อเหตุสุดสลดยิงยกครัว 4 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย ถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ-ขอโทษญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พงส.เผยปมเหตุหลักมาจากความขัดแย้งในครอบครัว
วันนี้ (9 ก.ย. 64) พ.ต.ท.บุญยัง บุญเอี่ยม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิจิตร ได้นำตัวนายพุทธวรรณ มั่นปาน อายุ 55 ปี อดีตผู้คุมเรือนจำพิจิตร ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่ายกครัวจำนวน 4 ศพ และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวน 3 ราย ภายในบ้านเลขที่ 87/3 หมู่ที่ 10 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร วานนี้ (8 ก.ย.) มาสอบปากคำ โดยมีทนายความร่วมรับฟังการสอบปากคำตลอดระยะเวลา
ทั้งนี้ ร.ต.ท.หญิง ศิราณี บัวพันธ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้แจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่นและฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน รวมถึงพกพาอาวุธปืนไปในสถานที่ ทางสาธารณะ ชุมชนเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ส่วนรายละเอียดแห่งการก่อเหตุ ผู้ต้องหาและทนายความไม่สะดวกที่จะให้การชั้นสอบสวน และจะขอไปให้การในชั้นศาล รวมทั้งไม่ต้องการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากห่วงความปลอดภัยของผู้ต้องหา รวมถึงเป็นการย้ำเตือนความทรงจำในพฤติการณ์แห่งการก่อเหตุด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่าอยากจะขอโทษญาติๆ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ส่วนการประกันตัวผู้ต้องหานั้นทนายความระบุว่ายังไม่ขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ร.ต.ท.หญิง ศิราณี บัวพันธ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนมูลเหตุจูงใจมาจากเรื่องทะเลาะวิวาทกับลูกติดภรรยา ซึ่งมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันมาหลายครั้งแล้ว โดยตลอดระยะเวลาที่ทะเลาะกันจะมีพ่อตา-แม่ยายคอยให้ท้ายอยู่ตลอด ประกอบกับน้องภรรยาของผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผู้ก่อเหตุได้ว่ากล่าวตักเตือนกันหลายครั้งจนนำไปสู่ความขัดแย้งกันระหว่างผู้ต้องหากับน้องเมียด้วย
ในวันที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงลูกติดภรรยาถึงแก่ความตายและหลานชายวัย 9 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นจึงก่อเหตุฆ่า นายธีรเดช สนเจริญ (เอ) ซึ่งเป็นน้องภรรยา หลังจากนั้นได้เดินไปบ้านแม่ยายซึ่งอยู่ติดกัน โดยยิงนางรำพึง สนเจริญ เป็นคนที่สาม ยิง น.ส.นิษิตรา สนเจริญ เป็นคนที่สี่ ยิงนายแดง มากมูล เป็นคนที่ห้า ยิงนายธีรเดช ซึ่งเป็นน้องเมีย เป็นคนที่หก และยิง น.ส.กาญจนา กุลมัย ซึ่งเป็นน้องสะใภ้เป็นคนที่เจ็ด ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกรายถูกยิงเข้าที่กกหูและบริเวณศีรษะ ตามลำดับ หลังจากก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาก็เข้าไปหาภรรยา พร้อมกับนำอาวุธปืนมาจ่อที่ศีรษะเพื่อฆ่าตัวตาย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเจรจาไกล่เกลี่ยจนยอมวางอาวุธปืนและเข้ามอบตัวในที่เกิดเหตุ
ด้านนายยุทธภูมิชัย ชัยชนะ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสรรเพชญ ซึ่งเป็นคนแรกที่เข้าไปในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปลูกติดกันและอยู่ในรั้วเดียวกันทั้ง 3 หลัง ซึ่งพบศพลูกติดภรรยาผู้ต้องหาเป็นศพแรกในบ้านเกิดเหตุ ส่วนหลานชายวัย 9 ขวบได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสในบ้านหลังที่สอง ขณะที่บ้านหลังที่สามพบศพพ่อตาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และศพนายธีรเดช ในห้องนอน ขณะที่แม่ยายพบเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นมะม่วงภายในบ้านที่เกิดเหตุ สำหรับผู้บาดเจ็บอาการสาหัสก็ถูกพบภายในบ้านทั้งสองหลัง