มุกดาหาร - อัยการสั่งฟ้องสองผัวเมียแห่งบ้านกกกอก “ลุงพล-ป้าแต๋น” 3 ข้อหาคดีน้องชมพู่ 1. พรากผู้เยาว์ 2. ทำให้คนตายโดยเจตนา ปล่อยปละละเลยให้เด็กจนถึงแก่ความตาย 3. ดัดแปลงสภาพศพ โดยลุงพลผิดทั้ง 3 ข้อหา ส่วนป้าแต๋นมีความผิด 1 ข้อหาคือดัดแปลงสภาพศพ อย่างไรก็ตามทั้งคู่นั่งยันเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมได้ประกันตัวเพื่อสู้คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ก.ย.) นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ นางสมพร กุหลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น (ภรรยา) ได้เดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ตามนัดหมาย โดยทางอัยการได้สั่งฟ้องนายไชย์พลในคดีน้องชมพู่ หรือเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ขวบที่เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขา 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1. พรากผู้เยาว์ 2. ทำให้คนตายโดยเจตนา ปล่อยปละละเลยให้เด็กจนถึงแก่ความตาย 3. ดัดแปลงสภาพศพ และนางสมพร มีความผิด 1 ข้อหา คือดัดแปลงสภาพศพ โดยทั้งคู่ยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมสู้คดี
สำหรับนางสมพร เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมาเพิ่งถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหาคือนายไชย์พล โดยร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพของน้องชมพู่ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ตาม ป.วิอาญา ม.150
ทั้งนี้ นางสมพรได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่าค่อนข้างกังวลหลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ แต่ขอยืนยันว่าตนไม่ได้ทำและเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมจะเดินหน้าสู้คดีถึงที่สุด ซึ่งวันนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวมา 50,000 บาท ตามที่ทนายรัชพลได้บอกไว้
ส่วนนายไชย์พล หรือลุงพล กล่าวยืนยันเช่นกันว่า ทั้งตัวเขาและภรรยาคือป้าแต๋นคือผู้บริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องคดีนี้ตามที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ที่ผ่านมาก็ให้กำลังใจป้าแต๋นมาโดยตลอด ก่อนออกจากบ้านวันนี้ไม่ได้ถือเคล็ดอะไร เพราะเชื่อว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ความดีจะคุ้มครอง
ภายหลังมีเรื่องราวของคดีความ นายไชย์พลบอกว่า โดยส่วนตัวไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กับนางสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ ยังเป็นครอบครัวเดียวกันเป็นเครือญาติกัน แต่อาจจะไม่ค่อยได้คุยกันหลังคดีนี้เกิดขึ้น แต่ยังติดตามความเคลื่อนไหวอีกฝ่ายเพราะเป็นห่วงอยู่
ทางด้าน พ.ต.ท.นิเวศ เด่นนินนาท อัยการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า วันนี้นัดนางสมพร ซึ่งเดิมทีทางอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาว่าเป็นตัวการร่วมดัดแปลงสถานที่พบศพ ซึ่งทางตำรวจที่กกตูมทำสำนวนเสร็จแล้วเมื่อเช้าก็เลยนำตัวนางสมพรมาที่อัยการจังหวัด ส่วนที่นายไชย์พลมาด้วยก็คงมาเป็นเพื่อน
ส่วนข้อหาที่ฟ้องนางสมพรว่า ร่วมกันกับนายไชย์พลในการดัดแปลงสถานที่พบศพ เป็นข้อหาเดียวกันกับนายไชย์พล เป็นคำฟ้องเดียวกัน โดยนายไชย์พลเป็นจำเลยที่ 1 นางสมพรเป็นจำเลยที่ 2 สำหรับนายไชย์พลนั้นมี 3 ข้อหา ได้แก่ 1. พรากผู้เยาว์ ส่วนข้อหาที่ 2 เดิมเป็นข้อหาทิ้งเด็กให้อยู่ในสภาพไม่มีคนดูแล จนถึงแก่ความตาย
แต่ว่าในข้อหาที่ 2 ในช่วงหลังทางอัยการสั่งเปลี่ยนข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ฉะนั้นข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา มันจะซ้อนกับข้อหาทอดทิ้งเด็กถึงแก่ความตาย อยู่ในข้อหาที่ 2
ส่วนข้อหาที่ 3 กล่าวถึงเป็นความผิดที่เกิดขึ้นหลังจากน้องชมพู่เสียชีวิตแล้ว ซึ่งแต่เดิมแล้วเป็นข้อหานายไชย์พล แต่มาช่วงหลังก่อนถึงวันนี้ประมาณ 4-5 วันก่อนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแจ้งนางสมพร เพิ่มว่า ร่วมกันกับนายไชย์พลในการดัดแปลงศพ ซึ่งเห็นว่าฟ้องพร้อมกันก็จริง แต่ไม่ให้หมายความว่า นางสมพรกระทำความผิดร่วมกับนายไชย์พลโดยสิ้นเชิง การร่วมนั้นร่วมหลังจากที่น้องชมพู่ถึงแก่ความตายไปแล้ว เฉพาะข้อหาที่ 3
มีรายงานว่าล่าสุดศาลจังหวัดมุกดาหารอนุญาตให้ประกันตัวนายไชย์พล วิภา หลักทรัพย์เป็นวงเงิน 500,000 บาท ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ หลักทรัพย์เป็นวงเงิน 180,000 บาท และศาลจังหวัดมุกดาหารได้นัดทั้ง 2 คนครั้งต่อไปในวันที่ 22 พ.ย. 64
