พระนครอยุธยา - ช้างในปางช้างอโยธยาขาดอาหารจนล้มป่วย เจ้าหน้าที่นำแบ็กโฮ มาช่วยพยุงตัว พร้อมประสานสัตวแพทย์ดูแล เผยสาเหตุเบื้องต้นอาจจะเป็นเพราะช้างอายุมาก และอาหารมีไม่เพียงพอเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ป้างช้างขาดรายได้
วันนี้ (3 ก.ย.) ร.ต.ต.ธานี โพธิ์ชีพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองอโยธยาได้รับแจ้งจากควาญช้างขอความช่วยเหลือว่ามีช้างล้มป่วย ไม่สามารถลุกขึ้นยืนเองได้ จึงได้นำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ บริเวณปางช้างอโยธยา เพื่อให้ความช่วยเหลือ
บริเวณลานดินหน้าบ้านพักควาญช้าง พบช้างล้มป่วยไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ เจ้าหน้าที่และควาญช้างจึงช่วยกันนำเชือกรัดบริเวณที่ลำตัว และคล้องกับแบ็กโฮเพื่อดึงร่างให้ช้างยืนขึ้นมาได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ช้างจึงสามารถทรงตัวและลุกยืนได้ แต่เนื่องจากช้างดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นยืนเองจึงทำให้มันหมดแรงเจ้าหน้าที่ควาญช้างและผู้ดูแลจึงได้นำกล้วยและอาหารผสมน้ำผึ้งให้ช้างกิน ก่อนที่จะประสานสัตวแพทย์ช้างให้มาดูแล
น ส.นิภาดา สุขมณี ผู้ดูแลช้างพังคำหล้า กล่าวว่า ช้างตัวดังกล่าวชื่อพังคำหล้า อายุ 89 ปี เมื่อวานนำไปปล่อยไว้ในป่าเพื่อให้ไปหาอาหารกินเอง แต่เกิดล้มลงอยู่ในป่าจึงได้ไปช่วยกันพยุงให้ช้างลุกขึ้นเดิน หลังจากนั้นนำกลับมาที่พักของช้าง พอช่วงเช้าเห็นพังคำหล้า นอนล้มลงอยู่ที่โคกดิน และส่งเสียงร้องให้คนช่วย จึงได้ประสานรถแบ็กโฮของทางเทศบาลให้มาช่วยเหลือ
ส่วนสาเหตุนั้นเบื้องต้น อาจจะเป็นเพราะพังคำหล้า มีอายุมากแล้ว ประกอบกับช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ไม่ค่อยมีรายได้ จึงขาดอาหารในการเลี้ยงช้าง แต่ยังมีผู้ใจบุญนำอาหารมาเลี้ยงแต่ยังไม่พอเพียง เนื่องจากช้างมีหลายเชือก จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พังคำหล้า กินอาหารไม่เพียงพอ จึงทำให้หมดแรงและล้มลง จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ผู้ที่ใจบุญต้องการนำหญ้า อ้อย หรือกล้วยมาเลี้ยงช้างมาได้ที่ปางช้างอโยธยา และช่วงนี้ทางปางช้างเพิ่งจะเปิดวันแรก ขอเชิญนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวนั่งช้างและให้อาหารช้างเพื่อเป็นการทำบุญให้ช้าง