xs
xsm
sm
md
lg

จบดรามา! จนท.ยอมให้กลับบ้านแล้ว หนุ่มกู้ภัยไลฟ์เฟซฯ โอดถูกกักตัวศาลาพักศพหน้าเมรุสุดวังเวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - จบดรามา อบต.และ รพ.สต.อำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ยอมให้หนุ่มกู้ภัยไลฟ์เฟซบุ๊กโอดครวญให้กักตัวศาลาพักศพหน้าเมรุกลับไปกักตัวต่อที่บ้านตามต้องการแล้ว แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อเคร่งครัด นายก อบต.แจงที่วัดเป็นสถานที่กักตัวโควิดอยู่แล้ว และที่ผ่านมาเคยมีคนกักตัวที่ศาลาพักศพแต่ไม่มีปัญหา

วันนี้ (2 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ว่าที่ สิบเอก จารุวงศ์ นิลบรรพต” ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฯ ด้วย ได้โพสต์ข้อความ พร้อมคลิปไลฟ์สดระบายความรู้สึกน้อยใจที่ผู้นำท้องถิ่น และชุมชนให้มากักตัวในศาลาพักศพซึ่งอยู่หน้าเมรุเผาศพภายในวัดแห่งหนึ่ง ที่ ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพียงคนเดียวท่ามกลางความมืดสุดวังเวงและชวนขนหัวลุก ทั้งที่ตัวเองรักษาโควิดหายแล้วและมีใบรับรองจากแพทย์ว่าให้กลับไปกักตัวที่บ้านได้แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้ออย่างเคร่งครัด จนกลายเป็นกระแสดรามาในโลกโซเชียล

ว่าที่ สิบเอก จารุวงศ์ นิลบรรพต หนุ่มถูกให้กักตัวในศาลาพักศพหน้าเมรุ
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดสระขุดใหม่ ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ พบ ว่าที่ สิบเอก จารุวงศ์ นิลบรรพต อายุ 35 ปี หนุ่มที่ไลฟ์เฟซบุ๊กยังถูกกักตัวอยู่ภายในศาลาธรรมสังเวช ซึ่งเป็นศาลาพักศพตั้งอยู่หน้าเมรุเผาศพตามที่ระบุในไลฟ์เพียงคนเดียวจริงๆ จากการสอบถาม ว่าที่ สิบเอก จารุวงศ์บอกว่าสาเหตุที่ไลฟ์เฟซบุ๊กเพราะรู้สึกน้อยใจว่าทำไมตนเองรักษาอาการป่วยติดเชื้อโควิด-19 หายแล้วและมีใบรับรองจากแพทย์อนุญาตให้กลับไปกักตัวที่บ้านได้เป็นเวลา 14 วัน แต่ทำไมทางผู้นำท้องถิ่นและชุมชนกลับให้มากักตัวในศาลาพักศพหน้าเมรุแบบนี้

หากจะให้กักตัวในวัดก็ไม่ว่าแต่ขอเป็นจุดอื่นที่ไม่ใช่ศาลาพักศพหน้าเมรุเพราะมันไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นสถานที่สำหรับตั้งศพและเผาศพคนที่เสียชีวิต แต่หากไม่มีสถานที่จำเป็นต้องกักตัวที่นี่จริงๆ ก็น่าจะมีเพื่อนสักคน ไม่ใช่อยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดและวังเวงแบบนี้ ถึงตนจะเป็นอาสากู้ภัยและใจแข็งแต่การให้อยู่คนเดียวในศาลาพักศพหน้าเมรุตอนกลางคืนก็ยอมรับว่ากลัว เมื่อคืนที่กักตัวเป็นคืนแรกก็นอนไม่หลับทั้งคืน อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเห็นใจและเปลี่ยนสถานที่กักตัวให้ด้วย


ขณะที่ นายบุญธรรม นนตานอก นายก อบต.ทุ่งกระเต็น ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ปกติที่วัดแห่งนี้เปิดเป็นสถานที่กักตัวเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 อยู่แล้ว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยอยู่บริเวณหน้าศาลาการเปรียญ ห่างจากศาลาพักศพประมาณ 200 เมตร ส่วนสาเหตุที่ให้หนุ่มกู้ภัยฯ คนดังกล่าวไปกักตัวในศาลาพักศพเนื่องจากศาลาการเปรียญซึ่งเป็นสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงจะมีกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดแต่ผลตรวจยังไม่ติดเชื้อ กักตัวอยู่แล้ว 6 คน และเมื่อไปดูสถานที่ที่บ้านก็ไม่เหมาะที่จะกักตัวเพราะไม่มีสถานที่ให้แยกกักตัวต่างหากได้ เกรงว่าหากเชื้อยังไม่ตายอาจจะไปติดคนในครอบครัว

จึงได้หารือกับทาง รพ.สต.ตกลงว่าให้ไปกักตัวที่ศาลาพักศพดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยทั้งคนในครอบครัว และคนอื่นด้วย ซึ่งได้ไปพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ป่วยรายดังกล่าวก่อนแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร และที่ผ่านมาช่วงแรกๆ ศาลาพักศพดังกล่าวก็เคยมีคนมากักตัวเพราะสถานที่ไม่เพียงพอ แต่ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็ไม่คิดว่าเคสนี้จะกลายเป็นประเด็นดรามา


อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเกิดกระแสทาง อบต.ได้หารือ รพ.สต.จะให้ผู้ป่วยรายดังกล่าวกลับไปกักตัวที่บ้านตามความประสงค์ แต่จะกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อของทางกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็ทำตามมาตรการไม่คิดว่า ความหวังดีจะถูกมองว่าประสงค์ร้าย นายก อบต.ทุ่งกระเต็นกล่าวในตอนท้าย







นายบุญธรรม นนตานอก นายก อบต.ทุ่งกระเต็น






กำลังโหลดความคิดเห็น