อุตรดิตถ์ - ตำรวจซ้อนแผนส่งสายล่อก่อนรวบ..อดีตทหารยศร้อยเอกนักแม่นปืน ทบ.-หน.ชุดสกัดกั้นยาเสพติด อ้างลาออกจากราชการทำสวนรายได้ไม่พอใช้ พกบัตร-แขวนเครื่องติดรถรับจ้างขนยาบ้าแลกเงิน เจอของกลางยานรก 300,000 เม็ด
วันนี้ (28 ส.ค. 64) พล.ต.ต.ไชยา สุนทรกิจ ผบก.ภ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนายตำรวจระดับสูงและชุดจับกุมยาเสพติด ได้แถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ถึงการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาบ้าขนาดใหญ่ในพื้นที่
หลังตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดประจำศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 6 ร่วมกับชุด ปส.ตำรวจภูธรอุตรดิตถ์ ร่วมกันจับกุมกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ทำการสอบสวนจนทราบว่ามีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดซุกซ่อนมากับรถยนต์จากแถบภาคเหนือตอนบนมาส่งที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เพื่อกระจายขายให้พ่อค้ารายย่อยแถบอุตรดิตถ์-สุโขทัย
เจ้าหน้าที่จึงได้ปลอมตัวเป็นลูกน้องในเครือข่ายยาเสพติดติดต่อเพื่อไปรอรับยาเสพติดในเขตพื้นที่ อ.พิชัย และวางแผนการจับกุม
กระทั่ง 27 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แบบอเนกประสงค์ รุ่น HR-V หมายเลขทะเบียน กฉ 9767 เพชรบูรณ์ ขับเข้ามาในพื้นที่พร้อมใช้โทรศัพท์ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัว แจ้งว่าได้เดินทางมาถึงยังเขตพื้นที่ อ.พิชัย
เจ้าหน้าที่จึงได้นัดหมายให้มาที่บริเวณจุดนัดพบ จากนั้นได้ทำการปิดล้อมและเข้าจับกุมผู้ขับขี่ พร้อมทั้งได้ตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้าซุกช่อนอยู่ในช่องเก็บยางอะไหล่ท้ายรถ 300,000 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 อยู่ข้างเบาะคนขับจำนวน 1 กระบอก
สอบสวนผู้ต้องหาที่นำยาบ้ามาส่ง พบว่าเคยเป็นอดีตนายทหารยศ ร.อ. เคยเป็นนักกีพายิงปืนของกองทัพ รวมทั้งเคยมีโอกาสเข้ารับการคัดตัวเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ และยังได้รับรางวัลแข่งขันยิงปืนมาแล้วหลายรายการ อีกทั้งยังจบหลักสูตรหน่วยรบพิเศษของกองทัพบก ซึ่งปัจจุบันได้ลาออกจากราชการมาแล้ว 3 ปี
สอบถามเบื้องต้นรับว่าเคยรับจ้างขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง เพราะว่าหลังจากลาออกจากราชการแล้วไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกสวนผลไม้อยู่ที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย รายได้ไม่พอใช้ในครอบครัว ประกอบกับตนเองเคยเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยชุดสกัดกั้นยาเสพติดในเขตพื้นที่ตะเข็บชายแดน จ.เชียงราย มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และรู้จักกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในแถบชายแดนของเชียงราย จึงได้มารับจ้างขนยาบ้า
โดยจะอาศัยเครื่องแบบนายทหารที่แขวนไว้ภายในรถยนต์ และใช้บัตรข้าราชการทหาร เป็นใบเบิกทางในการขนยาเสพติดให้รอดพ้นการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ฯ ตามจุดสกัดต่างๆ ซึ่งได้รับค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาทต่อการขนยาบ้า 1 เที่ยว